ในปัจจุบันพบว่าคนไทยป่วยเป็น โรคหลอดเลือดสมอง เพิ่มมากขึ้น พบว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย โรคหลอดเลือดสมองมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและไม่ทันตั้งตัว โดยเมื่อหลอดเลือดในสมองตีบอุดตันและแตก จะเป็นสาเหตุอัมพฤกษ์อัมพาต และอาจทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุด วันนี้เราจึงมีข้อมูลความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง พร้อมวิธีการรักษาจากโรงพยาบาลนครธน มาฝากกันค่ะ
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) คือ ความผิดปกติของหลอดเลือดสมองที่ทำให้สมองขาดเลือด โดยอาการผิดปกติจากโรคหลอดเลือดสมอง ได้แก่ ปากเบี้ยว พูดไม่ขัด กลืนลำบาก แขนขาชาหรืออ่อนแรงครึ่งซีกของร่างกาย และมักมีอาการเฉียบพลัน
โรคหลอดเลือดสมอง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1.หลอดเลือดสมองตีบตันหรืออุดตัน (ischemic stroke) พบได้ประมาณ 70% ของโรคหลอดเลือดสมอง การอุดตันเกิดได้จากลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นในบริเวณอื่นไหลไปตามกระแสเลือดจนไปอุดตันที่หลอดเลือดสมอง หรืออาจเกิดจากมีลิ่มเลือดก่อตัวในหลอดเลือดสมอง และขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนอุดตันหลอดเลือดสมอง
ในบางรายอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นสามารถหายได้เองใน 24 ชั่วโมง เรียกว่า ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (Transient ischemic attack – TIA)
2.หลอดเลือดสมองแตก (hemorrhagic stroke) พบได้ประมาณ 30% ของโรคหลอดเลือดสมอง การแยกว่าคนไข้ที่มีอาการเหล่านี้เป็นจากโรคหลอดเลือดสมองตีบตันหรือโรคหลอดเลือดสมองแตกนั้นจำเป็นต้องใช้การเอกซเรย์สมองมาช่วยแยก เนื่องจากอาการของทั้งสองกลุ่มนี้มีความคล้ายคลึงกันแต่มีปัจจัยเสี่ยงและการรักษาที่ต่างกัน
โรคหลอดเลือดสมอง มีอาการอย่างไร?•มีอาการอ่อนแรงที่ใบหน้า เช่น ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด หลับตาไม่สนิท หรือชาที่ใบหน้า
•มีอาการแขนขาอ่อนแรงอย่างเฉียบพลันโดยมักเป็นครึ่งซีก
•มีอาการแขนหรือขาชาอย่างเฉียบพลัน มักจะเป็นซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย
•พูดไม่ออก หรือฟังไม่เข้าใจ รวมทั้งพูดลำบาก หรือพูดไม่ชัด
•มองเห็นภาพซ้อน หรือมองไม่เห็น
•มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงเฉียบพลัน โดยที่ไม่มีสาเหตุ
•มีการเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว เช่น ซึมลง เรียกไม่รู้ตัว
•มีอาการวิงเวียนศีรษะ บ้านหมุน
•มีอาการเดินเซ เดินลำบาก การทรงตัวไม่ดีอย่างเฉียบพลัน
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง โดยต้องแยกเป็นปัจจัยเสี่ยงเป็น
2 กลุ่ม ดังนี้ โรคหลอดเลือดสมองตีบ อุดตัน (Ischemic stroke)ปัจจัยเสี่ยง แบ่งเป็น ปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันไม่ได้ เช่น อายุ และปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันได้ ได้แก่
•ความดันโลหิตสูง
•เบาหวาน
•ไขมันในเลือดสูง
•สูบบุหรี่
•โรคหัวใจบางประเภท เช่น โรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งสามารถทำให้เกิดลิ่มเลือดในหัวใจแล้วหลุดไปอุดหลอดเลือดสมองได้
การรักษา 1.การรักษาจำเพาะเพื่อเปิดเส้นเลือดที่ตีบ มีสองวิธี
•
การให้ยาละลายลิ่มเลือด •
การใส่สายสวนทางหลอดเลือดแดงเพื่อเปิดหลอดเลือด (Mechanical thrombectomy)
2.การรักษาอื่น
•การให้ยาต้านเกร็ดเลือด (Antiplatelet) เช่น แอสไพริน
•การให้น้ำเกลือ
•การกายภาพบำบัด
•ควบคุมปัจจัยเสี่ยงเพื่อลดโอกาสการเกิดหลอดเลือดสมองตีบซ้ำ เช่น งดบุหรี่ ควบคุมน้ำตาล ความดันโลหิตและไขมันในเลือด
•การผ่าตัด : จะทำเฉพาะผู้ป่วยบางรายที่มีภาวะสมองบวมมาก
ภาวะแทรกซ้อน 1.ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท ได้แก่
•มีการตีบตันของหลอดเลือดมากขึ้นแม้จะได้รับการรักษาแล้ว
•มีเลือดออกของสมองในส่วนที่ขาดเลือด
•สมองบวม
•ชัก
2.การติดเชื้อ : การติดเชื้อที่พบบ่อยในผู้ป่วยกลุ่มนี้คือ การติดเชื้อทางเดินหายใจ และ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
3.หลอดเลือดดำที่ขาอุดตัน ซึ่งมักเกิดในขาข้างที่อ่อนแรง ซึ่งลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นสามารถ หลุดไปอุดที่ปอด จนทำให้เกิดการขาดออกซิเจนได้
โรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic stroke)ปัจจัยเสี่ยง
•ความดันโลหิตสูง
•ความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง เช่น เส้นเลือดโป่งพอง (Aneurysm) หรือ ความผิดปกติตรงรอยต่อระหว่างหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ (Arteriovenous malformation – AVM)
การรักษา
1.ในส่วนของเลือดที่กดเบียดเนื้อสมอง : หากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มาก แพทย์อาจใช้วิธีการรักษาแบบประคับประคองแล้วรอให้เลือดสลายไปเอง แต่หากเลือดที่ออกมีปริมาณมากจนกดเบียดสมองส่วนอื่นที่สำคัญ แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัด
2.ในส่วนของการป้องกัน
•ความดันโลหิตสูง : ควบคุมความดันโลหิต
•ความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง : สามารถทำได้หลายวิธีขึ้นกับตำแหน่งและขนาด เช่น การผ่าตัด การฉายรังสี การใส่สายสวนไปอุดหลอดเลือดที่ผิดปกติ (Embolization) ใช้คลิปหนีบหรือใส่ขดลวดอุดตำแหน่งนั้นไว้
ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (Transient ischemic attack – TIA)คนไข้กลุ่มนี้ทั้งอาการและปัจจัยเสี่ยงจะเหมือนกลุ่มคนไข้หลอดเลือดสมองตีบ แต่ อาการจะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากมีการหลุดของลิ่มเลือดที่อุดตันเส้นเลือดออกไปเอง ดังนั้นคนไข้กลุ่มนี้ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับยาละลายลิ่มเลือดเหมือนคนไข้หลอดเลือดสมองตีบ แต่มีความจำเป็นต้องหาปัจจัยเสี่ยงและควบคุมปัจจัยเสี่ยงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหลอดเลือดสมองตีบซ้ำ
รู้ทันสาเหตุ
โรคหลอดเลือดสมอง สาเหตุอัมพฤกษ์ อัมพาต ต้นเหตุของความพิการ และอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที หรือหากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงข้างต้น ที่อาจจะส่งผลให้เป็น
โรคหลอดเลือดสมอง แนะนำมาปรึกษาแพทย์ผู้เชียวชาญที่
โรงพยาบาลนครธน เรายินดีให้บริการดุจคนในครอบครัว สามารถให้คำแนะนำคุณอย่างเป็นกันเอง รู้ตัวก่อน ระวังได้ก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.nakornthon.com/Article/Detail/โรคหลอดเลือดสมอง-Stroke-ตีบแตกตันอันตราย