เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาและโฆษณา คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม‘นโยบายคุกกี้’ และ ‘นโยบายความเป็นส่วนตัว’
เรื่องล่าสุดของหมวด
แคนนอน เปิดตัว Canon EOS R7 และ EOS R10 เซนเซอร์ APS- C พร้อมเลนส์ระบบ RF-S
มาแล้ว Android 13 Beta 2.1 ออกมาเพื่อแก้ปัญหาในมือถือ Pixel
Apple เตรียมเพิ่มค่าตอบแทนพนักงานรับเงินเฟ้อทั่วโลก
Apple A16 Bionic อาจไม่ได้มีอะไรใหม่ให้ตื่นเต้นมากนัก
หลุดภาพแรก Canon RF-S 22mm f/2 STM จากข่าวลือ Roadmap เลนส์ RF-S APS-C
ชาวประมงเคนยาใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า ลดมลภาวะ-แก้ปัญหาน้ำมันแพง
แกะกล่องทดสอบ "HUAWEI WATCH GT 3 Pro" ดีไซน์สวย ดำนํ้าได้เล่นกอล์ฟดี ใช้งานนาน 14 วัน
รีวิว OPPO Find X5 Pro มือถือเรือธงจาก OPPO โดดเด่นเรื่องกล้องมากที่สุดของปีนี้
สัมผัสแรก vivo X80 Series ดีไซน์เปลี่ยนแปลงให้สวยลงตัว กับสเปกถือว่าสุด
รีวิว ASUS Zenbook UX3402 กับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสเปกครบกว่าที่เคยมีมา
รีวิว Huawei Matebook 14s(2022) แล็ปท็อปรุ่นใหม่ คุณภาพสูง ราคาดี เพื่อนคู่ใจสายทำงาน
รีวิว "HUAWEI FreeBuds SE" ฟังสบายต่อเนื่อง ในราคาสบายกระเป๋า 1,899 บาท
[How To] ลืมรหัส Google Account จะทำอย่างไรดี ???
รวมวิธีใช้ iPhone แบบลับ ๆ ที่นำไปใช้ได้แบบคูล ๆ
[How-To] หากคุณลืมรหัส iPhone ของคุณ ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
ส่องมือถืองบประมาณ 9,000-16,000 บาท ประจำเดือน พฤษภาคม 2022 ที่น่าใช้รอบด้าน
[How To] วิธีขอสิทธิ์เข้าถึงบัญชี Apple ของสมาชิกในครอบครัวที่เสียชีวิต
แอปพลิเคชันสำหรับแต่งรูป "ฟรี" ที่คนโซเชียลต้องมีติดเครื่อง ถ่ายรูปไม่สวยแอปเหล่านี้ช่วยได้
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
ปัจจุบันการทำ Website เป็นที่นิยมมากๆ เพราะเทรนด์ค้าขายหันมาในโลก Online มากขึ้น มีผู้ให้บริการ Website ฟรีอย่างมากมาย เดี๋ยวนี้มีคุณภาพไม่แพ้กับการทำ Web ด้วยตัวเอง แต่เมื่อต้องการใช้งานในฟังก์ชั่นที่สูงขึ้นไป ก็จะเริ่มมีค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มขึ้นมาด้วยเช่นกัน ดังนั้น Website ที่ทำโดยผู้ให้บริการฟรี เหมาะสำหรับจุดเริ่มต้น ของคนมี Website แต่หาก Website นั้นเริ่มเป็นที่รู้จัก มีคนเข้ามากขึ้น ต้องการระบบต่างๆรองรับการใช้งานเพิ่มมากขึ้น การทำ Website ของตัวเอง อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในภายหลังการทำ Website นั้น 1 ในกระบวนการ นอกจากการมีชื่อ Domain Name เป็นของตัวเองแล้ว ก็ต้องมี Hosting สำหรับการเก็บข้อมุล Website ของเราด้วย การเลือก Hosting เป็นกระบวนการที่สำคัญมาก เปรียบเหมือนการเลือกบ้านเช่า ที่ต้องอยู่กันไปในระยะยาว ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดีว่า Hosting ไหนเหมาะสำหรับ Website ของเรา มีวิธีการดูง่ายๆ 3-4 ข้อ ลองมาดูกัน1. ลองดู Web ของผู้ให้บริการก่อนเลย ว่า Web ของผู้ให้บริการ Web Hosting เจ้านั้นเป้นยังไง โหลดเร้วหรือไม่ ถ้า Web ของผู้ให้บริการเองยังโหลดช้า แล้ว Web ของลูกค้าขนาดไหน ให้รีบถอยห่างให้เร็ว 2. ดู Website ลูกค้าของผู้ให้บริการนั้น ลองไปเปิด Web ที่ ผู้ให้บริการได้ Reference ไว้ดูว่า Web ของลูกค้าของ Hosting นั้นโหลดเร็วหรือไม่ ถ้า Web ต่างๆที่เป็นลูกค้าของ Hosting นั้นโหลดเร็ว ก็พอจะสบายใจที่จะเลือกใช้บริการได้3. ทดสอบการ Support ตามช่องทางต่างๆ ว่าตอบคำถามเร็วแค่ไหน ถ้าเริ่มต้นการขาย ยังตอบช้า หลังเป็นลูกค้าไปแล้ว ก็จะยิ่งไปกันใหญ่ แล้วต้องทนอยู่กันไปอีกนาน ตรวจสอบลองถามคำถามเบื้องต้น ตามช่องทางต่างๆที่ให้ไว้ ดูว่าทางผู้ให้บริการใส่ใจในการตอบคำถามมากน้อยขนาดไหน4. ถูกที่สุดไม่ใช่คำตอบ แต่ให้ดูข้อ 1-3 ข้างต้น แล้วพิจารณาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด Package ที่เราใช้ ก็ควรเหมาะสมกับขนาด Website ของเรา ถ้า Web เราคนเข้าวันละหมื่นคน แต่ไปเลือกจ่ายแบบ Package ถูกที่สุด ถ้า Website ของเราช้า ก็อาจจะไม่สามารถโทษผู้ให้บริการ Hosting ได้ เลือกผู้ให้บริการ และขนาด Package ที่เหมาะสมสำหรับ Web ของเราทั้งนี้ถ้าได้ Hosting ที่ดี ก็จะหมดปัญหาปวดหัวไป 1 เรื่องใหญ่ๆ เอาเวลาไปพัฒนา Website ของเราให้ดีเต็มที่แทน
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี