14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรักที่ใครหลายๆคนก็ทราบกันดี แต่จะมีใครบ้างที่รู้ว่าวันวาเลนไทน์มีที่มาอย่างไร เหตุเป็นเพราะวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้น เป็นวันเสียชีวิตของนักบุญวาเลนไทน์ หรือเซนต์วาเลนไทน์ นักบุญแห่งความรักนั้นเอง สมัยจักรพรรดิ คลอดิอุสที่สองได้มีการยกเลิกพิธีแต่งงานและพิธีหมั้น แต่นักบุญวาเลนไทน์กลับชวนคู่รักหลายคู่ให้แต่งงาน จนโดนจับ เมื่อโดนจับได้ นักบุญวาเลนไทน์จึงถูกนำตัวไปประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันดังกล่าวจึงกลายมาเป็น วันวาเลนไทน์ วันที่ทุกคนออกมาแสดงความรักให้กัน และต้องมีของขวัญมอบให้ และสำหรับสาวๆเองก็คงมีของในใจที่อยากได้กันใช่มั้ยละ เราจะมาดูกันว่าของขวัญแต่ละอย่างมีความหมายอย่างไร
1. ซ็อกโกแล็ต ว่ากันว่าในยุคสมัยที่นักบุญวาเลนไทน์เสียชีวิต เป็นยุคที่ช็อกโกแล็ตนั้นหาทานได้ยากมาก ดังนั้นการมอบช็อคโกแล็ตจึงเปรียบเสมือนการให้ความรักแก่กัน ด้วยรสชาติที่มีตั้งแต่หวานไปจนขม เปรียบดั่งความรักของผู้คนที่มีหลากหลายรสชาติ หลากหลายอารมณ์นั่นเอง อีกทั้งยังอาจสื่อถึงเสรีภาพ มิตรภาพ และสันติภาพได้อีกเช่นกัน
2. ดอกไม้ จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า ‘ฉันรักเธอ’ การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รักความ หมายถึงความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้ ที่ชายหนุ่มมอบให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน
3. แหวน คือการแสดงความเป็นเจ้าของหรือบอกเป็นนัยว่า เราเป็นคู่กัน ชายหนุ่มที่ให้แหวนกับหญิงสาว ในวันวาเลนไทน์ หมายถึง ความเป็นนิรันดร์กาล
4. เครื่องสำอาง การให้เครื่องสำอางเป็นการให้สิ่งที่มีค่า และทำให้คนให้เป็นคนมีค่าด้วย สาว ๆ ทุกคนชอบเครื่องสำอางและสกินแคร์ คุณแม่ก็เช่นกันอาจกำลังรอลิปสติกสีสวยจากลูกสาวอยู่ เลือกสกินแคร์ให้ถูกใจคนรับต้องรู้ด้วยว่าเขาคนนั้นเป็นคนผิวประเภทไหน เลือกลิปสติกให้ถูกใจคุณแม่หรือเพื่อนรักก็ต้องรู้ใจกัน การให้เครื่องสำอางคือความใส่ใจมากมายนั่นเอง
5. เงิน คือสัญลักษณ์ของความมีเกียรติ การให้คุณค่า ซึ่งเรามักจะเงินให้กับพ่อแม่ หรือพ่อแม่ให้กับลูก คนในครอบครัว ความรักของคนในบ้านคือความรักที่มีค่าและเราให้เกียรติซึ่งกันและกัน
