กระทู้นี้ขอทำเป็นวิทยาทานแก่ผู้ป่วยโรคแผลปริขอบทวาร หรือ Anal Fissure (แบบไม่มีริดสีดวงภายใน ภายนอกมาเกี่ยวข้องด้วย) ที่กำลังกล้าๆ กลัวๆ ในการตัดสินใจเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งเราจะเขียนเป็นไทม์ไลน์ขั้นตอนการรักษา ข้อกังวล และผลที่เกิดขึ้น เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วยรายอื่นๆ ต่อไป
ขอเริ่มต้นเล่าอาการก่อนนะครับ คือเราเริ่มมีเจ็บอาการก้นประมาณปี 2556 ซึ่งเกิดจากอึก้อนใหญ่แล้วมันบาด พอเช็ดก้นก็มีเลือดติดที่กระดาษ แต่มันก็เจ็บไม่มาก สักครึ่งชั่วโมงอาการเจ็บก็หายไป และเป็นแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็ไม่เกิดอาการอีกเลย ต่อมาอีกสองสามเดือนมันก็เจ็บอีกตอนอึ แต่ทีนี้มันมีเลือดหยดลงไปในชักโครกด้วย เราก็คิดว่าเป็นริดสีดวง ก็เลยไปหาหมอ คุณหมดก็จัดการล้วงตูดเรา แล้วบอกว่าไม่มีริดสีดวง แต่เป็นทวารฉีก ก็สั่งไฟเบอร์มาให้กินก่อนนอน พร้อมบอกให้ออกกำลังกาย ดื่มน้ำเยอะๆ กินผักผลไม้มากๆ หลังจากนั้นเป็นต้นมาเราก็มักจะเจ็บตูดอยู่เรื่อยๆ เวลาอึก้อนใหญ่ๆ หรืออึแข็ง แต่มันก็ไม่ได้เป็นบ่อยมาก ประมาณปีนึงเป็น 2-3 ครั้ง และแต่ละครั้งก็เจ็บแค่ 2-3 วัน จนมาเมื่อปลายปี 2561 ต่อต้นปี 2562 อาการมันหนักขึ้น คือแทบจะมีอาการทุกเดือน เราก็เลยไปหาหมออีกครั้ง คุณหมอก็ล้วงก้นเรา และบอกว่าหูรุดเราแน่นมาก ขนาดสอดนิ้วเข้าไปยังรัดนิ้วหมอแรงเลย และมันเป็นอาการปริเรื้อรังแล้ว เพราะเริ่มมีติ่งเนื้อยื่นออกมา คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดขยายหูรูดด้านใน ซึ่งคุณหมออธิบายว่า หูรูดทวารของคนเรามันมีสองชั้น ชั้นนอกสุดเราสามารถควบคุมมันได้โดยการขมิบ แต่ชั้นในเราควบคุมมันไม่ได้ ทีนี้เวลาเราอึ แล้วเรากลัวเจ็บเราก็จะขมิบตูดไว้ ประสาทอัตโนมัติมันก็ขมิบไปด้วย มันก็เลยเกิดการรัดตัว เลือดก็ออกไปเลี้ยงบริเวณแผลที่ฉีกไม่ได้ ทำให้แผลหายช้า กลายเป็นแผลเรื้อรัง การผ่าตัดจะเป็นการไปตัดกล้ามเนื้อด้านในให้คลายตัว พอมันคลายตัวเลือดก็มาเลี้ยงบริเวณแผลปริได้ดี ก็จะทำให้แผลหาย คุณหมอก็อธิบายผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเช่นกลั้นตดกลั้นอึไม่ได้ การต้องสวนฉี่หลังผ่าตัด ฯลฯ และสรุปค่ารักษาประมาณ 50,000 บาท แล้วคุณหมอก็ถามถึงสิทธิการรักษาต่างๆ ที่เรามี แล้วให้เราตัดสินใจว่าจะรับการรักษาที่ไหน (ลืมบอกไป เราไปหาหมอที่รพ.เอกชน)
วันรุ่งขึ้นเราก็ไปรพ. ที่เรามีประกันสังคมอยู่ คุณหมอก็ถามอาการและล้วงก้นเราอีก แล้วก็ยืนยันเหมือนหมอคนเดิมว่าหูรูดด้านในเราแน่นมาก ต้องผ่าตัดเท่านั้นถึงจะหาย เราก็นัดวันผ่ากับคุณหมอที่นี่เลย ได้คิววันที่ 12 เมษายน 2562 เวลา 13.00 น. แต่ให้มาถึงรพ. ตอน 10.00 น. โดยใช้สิทธิประกันสังคม แต่เราขอจ่ายเพิ่มเป็นค่าห้องเดี่ยว และคุณหมอก็แนะนำยาฉีดที่อยู่นอกบัญชีหลัก ที่จะช่วยลดอาการปวด แต่ต้องจ่ายเพิ่ม 1,000 บาท เราก็ตกลงจ่ายเพิ่มในส่วนนี้ และไปดำเนินการเรื่องจองห้อง เจาะเลือด x-ray ทำ EKG ในวันนี้เลย