สวัสดีค่ะ ว่าที่คุณ
แม่ทั้งหลายที่เข้ามาอ่านกระทู้ เก็บเกี่ยวความรู้ไปดูแลตัวเองเพื่อก้าวสู่ความเป็นมนุษย์
แม่ลูกอ่อนกันนะคะ เราเองก็ภูมิใจมากเลยที่กำลังยืนอยู่ ณ จุด นี้ เลยขออาศัยช่วงลูกหลับมาขยับเม้าส์ บรรเลงคีย์บอร์ด แบ่งปันประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพตั้งแต่ก่อนท้อง ยัน ให้นมลูก อ่านกันซะหน่อย
ซึ่งเชื่อว่าสาวๆหลายคนหลัง
แต่งงานคงจะมีโมเม้นอยากจะมุ้งมิ้งๆกับสามีแบบตัวปลิวๆ ซักระยะ แล้วค่อยปั่มปั๊มลูก เราก็คนนึง ขอคุณสาว่าแต่งแล้ว 1 ปีแล้วกันค่อยมีลูกนะ คุณสาก็ตามใจ แต่พอผ่านเกือบๆปี คุณสามีก็ชวนไปตรวจสุขภาพ ปรึกษาคุณหมอเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตรซะหน่อย หลังจากตรวจสุขภาพทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่อีก 3 เดือน 4 เดือนกว่าจะครบปี คุณหมอก็แนะนำให้กินโฟลิคให้ได้เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายในการตั้งครรภ์ แต่คุณหมอเค้าไม่ได้จ่ายยามานะ เราไปหาซื้อเองที่ร้านขายยา ทางเภสัชแนะนำเป็น folic acid ตัวนี้ค่ะ มีมานาน น่าเชื่อถือ ดูปลอดภัยเลยซื้อมากิน

นอกจากโฟลิคแล้ว เราเองก็กินพวกวิตามิน อาหารเสริมบำรุงตัวเองอยู่แล้ว พอรู้ว่าท้องก็จะสรรหาอะไรที่เหมาะกับคนท้องกิน แต่ส่วนใหญ่จะเจอคำเตือนบนฉลากบอกว่า เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน ลองไปถามเพื่อนที่มีลูก คุณหมอของเค้าก็จ่ายให้กินปกติ เพราะคำเตือนแบบนี้มีในอาหารเสริมทุกชนิด มันเป็นกฎของ อย. ตอนไปฝากท้อง เพื่อความมั่นใจเราเลยขนทุกกระปุกที่มีแบกไปให้หมอดูให้หน่อยว่าตัวไหนกินได้ ไม่ได้บ้างอีกทีนึง
ก็มี 9 plus formular, น้ำมันปลา, แคลเซียม เห็นเพียบๆแบบนี้ ก็ได้มาจากตอนไปซื้อโฟลิคนั่นแหล่ะ แอบให้เภสัชจัดมาเผื่อเลยว่าท้องแล้วต้องกินอะไร 555 บานเลย พอคุณหมอดู เค้าก็บอกว่าท้อง 3 เดือนแรกให้กินโฟลิคตัวเดียวเหมือนเดิมไปก่อน เพื่อช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ และเพื่อป้องกันความพิการรุนแรงแต่กำเนิด ด้านสมอง และไขสันหลังได้ถึงร้อยละ 50 เลยนะ พออีก 3 เดือนมีนัดไปอัลตราซาวด์ ลูกแข็งแรงปกติดี

คุณหมอเลยบอกให้เปลี่ยนมากิน 9 plus formular ตัวเดียวก็พอ เพราะมีวิตามิน 9 ชนิด บวกอีก 4 แร่ธาตุสำคัญ เช่น ไอโอดีน ที่มีผลต่อการพัฒนาเซลล์สมองของเด็ก มีโฟลิคด้วย และมีน้ำมันปลา กับแคลเซียมผสมอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากกินน้ำมันปลากับแคลเซียมเพิ่มก็กินได้ แต่สำหรับเราไม่ชอบกินหลายๆตัว ถ้าในเม็ดนึงมีครบแล้วก็พอ แล้วก็พยายามกินอาหารที่มีโฟลิคสูง เช่น ตับไก่ เนื้ออกไก่ ผักใบเขียว พวกคะน้า หน่อไม้ฝรั่ง บรอคโคลี่ ดอกกุยช่าย ส้ม มะละกอ เมล็ดถั่ว และอาหารอื่นๆ ให้ครบ 5 หมู่ด้วย อย่างในนมก็มีแคลเซียมใช่มั้ย แต่ควรกินนมให้หลากหลาย ไม่ควรเน้นกินอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป ให้กินนมวัวสลับกับนมถั่วเหลือง หรือถ้ากินนมแพะได้ด้วยก็จะดี อาหารอื่นๆก็เหมือนกันควรกินให้หลากหลาย เพราะถ้าเน้นอย่างใดอย่างหนึ่งมากไป ตอนลูกคลอดออกมา เด็กก็อาจจะแพ้สิ่งนั้นได้ พอคุณหมอเห็นว่าเรามีวิตามินบำรุงอยู่แล้ว ไม่เคยจ่ายยาบำรุงตัวอื่นเลยค่ะ เราก็เลยกินแต่ 9 plus formular ตัวที่เอาไปปรึกษาหมอว่ากินได้มั้ยอย่างเดียวเลย ทั้งนี้ขึ้นกับแต่ละการวิเคราะห์ของคุณหมอแต่ละคนนะคะ

ในเรื่องของอาหารการกิน มนุษย์ท้องหลายคน อาจเป็นกังวลเรื่องนี้เป็นพิเศษ ว่าอะไรควรกินไม่ควรกิน คนท้องกินอะไรได้บ้าง อย่างน้อยๆ ก็เรื่องน้ำมะพร้าวหล่ะ ที่หลายคนสับสนว่ากินได้มั้ย หรือควรกินตอนอายุครรภ์กี่เดือน จริงๆกินได้ กินแต่พอดี ส่วนเรากินตอนเดือนที่ 7 – 8 แต่ช่วงใกล้คลอดไม่กินเลย ตอนคลอดออกมาตัวลูกก็ไม่เป็นไขนะ ผิวใสด้วย ความกังวลพวกนี้แหล่ะจะทำให้เราเครียด ลูกน้อยในท้องก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เราเลยไปหาตัวช่วยที่เชื่อถือได้ มาเป็นที่ปรึกษา นั่นก็คือ App Hi-Familly Club Today for Tomorrow ของนม HI Q ที่โหลดไว้ตอนลงทะเบียนในเพจ เพื่อรับข่าวสารความรู้ App เค้าดี๊ดี ลองโหลดมาติดโทรศัพท์ไว้ดูนะคะ เหมือนมีหมออยู่ใกล้ตัว 555

คือจะแบบเด้งเตือนอัพเดทมาตลอดว่าอายุครรภ์เท่านี้ เท่านั้น เด็กในครรภ์จะมีพัฒนาการยังไง คุณแม่ควรดูแลเรื่องอาหารการกินยังไงให้ลูกได้รับสารอาหารที่เพียงพอ แล้วก็จะมีนักโภชนาการคอยโทรเข้ามาแนะนำอยู่เรื่อยๆ จนถึงหลังคลอดมาแล้วก็ยังโทรติดตามอยู่ มาให้ความรู้เรื่องพัฒนาการของลูกน้อย แล้วใน App มีให้อัพเดทน้ำหนักทุกสัปดาห์ด้วยนะ เพื่อเตือนเราว่าน้ำหนักเราควรไม่เกินเท่าไหร่ในสัปดาห์นั้นๆ แต่เรานี่แบบว่ากินอิ่ม นอนหลับ น้ำหนักเกินกำหนดจ้า แต่หมอตัวจริงบอกว่าน้ำหนักเกิน แต่เกินแบบยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่มีภาวะเบาหวาน ก็ไม่เป็นไร น้ำหนักขึ้นมาทั้งหมด 20 โลจ้า จะร้องตอนหลังคลอดเนี่ยแหล่ะ หมอบอกว่าต้องเอาลงให้ได้ภายใน 3 – 4 เดือนนะ ไม่งั้นส่วนที่เกินมาจะตกอยู่กับตัวแม่ทั้งหมด ผ่านมา 2 เดือนแล้วให้นมลูก เลี้ยงลูกเอง น้ำหนักเลยลงค่อนข้างไว หลายไป 12 โลละ ค่อยมีกำลังใจหน่อย
