มะเร็งปากมดลูก เกิดจากอะไร ?
“ มะเร็งปากมดลูก” เป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากที่สุดในกลุ่มผู้หญิงไทย โดยส่วนมากพบในผู้หญิงช่วงอายุ 35-60 ปี ซึ่งสาเหตุสำคัญเกิดจากเชื้อไวรัสฮิวแมนแพปพิลโลมา หรือ HPV (Human Papilloma Virus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อกันได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งถ้าหากมีการติดเชื้อดังกล่าวแล้ว เชื้อไวรัส HPV จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณปากมดลูก โดยอาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือน หรือบางรายอาจจะใช้เวลานานถึง 15 ปีกว่าอาการจะสำแดงออกมา
ปัจจัยเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูก
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของเพศสัมพันธ์ เนื่องจากเพศสัมพันธ์เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อไวรัส HPV นั่นเอง โดยปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกมีดังนี้
สาเหตุในการเป็นมะเร็งปากมดลูก คือ
1.เกิดได้จากการมีคู่นอนหลายคน
2.การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงอายุน้อยกว่า 17 ปี เพราะในช่วงอายุดังกล่าวเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูกมาก และมีความไวต่อสารก่อมะเร็งสูง โดยเฉพาะเชื้อไวรัส HPV
3.มีประวัติการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส และหนองใน จะยิ่งทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
4.การรับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันนานกว่า 5 ปี ก็ทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้น 1.3 เท่า และหากรับประทานติดต่อนานถึง 10 ปีก็อาจจะทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 เท่า เพียง5.ผู้หญิงที่มีการคลอดลูกมากกว่า 4 ครั้ง อาจจะทำให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัวเลยทีเดียว
อาการในระยะเริ่มแรก
อาการตกเลือดเป็นอาการที่สามารถพบได้ถึง 80-90% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก โดยอาการตกเลือดอาจจะมีลักษณะเป็นเลือดออกกะปริบกะปรอยในระหว่างรอบเดือน หรือมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ บางรายอาจมีน้ำปนออกมากับเลือด หรือตกขาวปนเลือด หากเป็นหญิงวัยหมดประจำเดือนก็อาจจะมีเลือดออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตได้จากอาการตกขาวที่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ หรือมีหนองและเลือดปนออกมาด้วย แต่ทั้งนี้ก็อย่าเพิ่งตัดสินว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก เพราะนี่อาจจะเป็นอาการของโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์อื่น ๆ ได้เช่นกัน
อาการในระยะลุกลาม
แม้ในช่วงระยะแรกจะไม่แสดงอาการให้เห็นชัดเจนนัก แต่ถ้าหากปล่อยปละละเลยจนทำให้เข้าขั้นระยะลุกลามก็อาจจะทำให้เกิดอาการ เช่น ขาบวม ปวดหลังรุนแรง ปวดก้นกบ และบริเวณต้นขา อีกทั้งยังอาจจะมีอาการปัสสาวะและอุจจาระเป็นเลือดอีกด้วย
การรักษามะเร็งปากมดลูก
การรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกจะขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็ง โดยการรักษาแบ่งออกเป็น 2 วิธีตามระยะของมะเร็งใหญ่ ๆ ทั้ง 2 ระยะดังนี้
1. ระยะก่อนมะเร็งหรือระยะก่อนลุกลาม ในระยะนี้สามารถรักษาได้หลายวิธี อย่างเช่นการตัดปากมดลูกด้วยห่วงไฟฟ้า การจี้ปากมดลูกด้วยความเย็นหรือเลเซอร์ การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยด้วยมีด ซึ่งหลังจากรักษาด้วยวิธีเหล่านี้แล้ว ก็จะต้องมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด โดยจะต้องทำการตรวจซ้ำทุก ๆ 4-6 เดือน
2. ระยะลุกลาม ระยะลุกลามเป็นระยะที่จะต้องทำการรักษาอย่างระมัดระวังและรอบคอบ เพราะหากทำการรักษาผิด ก็อาจจะทำให้มะเร็งลุกลามเร็วขึ้น สามารถรักษาได้ด้วยการตัดมดลูก และต่อมน้ำเหลืองบริเวณอุ้งเชิงกรานออก จากนั้นแพทย์จะวินิจฉัยว่าควรจะต้องรักษาด้วยรังสีวิทยาต่อหรือไม่
การป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก
แม้ว่าจะเป็นโรคที่มีความรุนแรง แต่ก็สามารถป้องกันได้ ถึงจะป้องกันได้ไม่ 100% ก็ตาม แต่ก็ช่วยให้ความเสี่ยงลดลงได้ โดยการป้องกันด้วยตนเองแบบง่าย ๆ ก็คือการหลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็ง และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น พฤติกรรมทางเพศ ได้แก่ เลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ และใช้เครื่องป้องกันอย่างถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ อีกทั้งยังไม่ควรสูบบุหรี่ และไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ !!!! แต่มียาสมุนไพรตัวหนึ่งที่เรารู้จัก ยารากสามสิบสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ตัวนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยนะ เพราะพี่สาวเราทานแล้วลดความเสียงได้ เราเลยอยากมาบอกเล่าประสบการณ์ดีๆให้ผู้หญิงหลายๆคน ลองทานดู
“ยารากสามสิบ สมุนไพรคุณสัมฤทธิ์”
สรรพคุณ:รากสามสิบสมุนไพรคุณสัมฤทธิ์ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม โดยมีส่วนผสมของสมุนไพรหลายตัว เช่น รากสามสิบ แก่นฝาง ดอกคำฝอย ว่านชักมดลูก ฯลฯ ที่มีการศึกษาแล้วว่าช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและเนื้องอกในผู้หญิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากปฏิบัติควบคู่กับการใส่ใจดูแลสุขภาพ เช่น รับประทานผักผลไม้และอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด ปิ้ง ย่าง และอาหารที่มีไขมันสูง
หากใครกำลัง กลัวการที่จะเป็นโรคนี้ มีวิธีลดความเสี่ยงสูง ลองเข้าไป สอบถามหรือ สั่งซื้อทางนี้ได้เลย
https://www.
facebook.com/raksamsibkhunsumrit/?ref=hl