ทุเรียนเทศ รักษามะเร็งไม่ได้ แต่ทำให้ตายได้

[เมื่อ:]

แพทย์จุฬาฯ พบคนไข้มะเร็งไทยตายเพราะตับและไตวาย ก่อนตายเพราะมะเร็ง เหตุหลงเชื่อทุเรียนเทศแก้มะเร็ง ย้ำต่างประเทศศาลลงโทษคนขายแล้ว ไทยคงมีเร็วๆนี้

ความเชื่อผิดๆ "ทุเรียนเทศ" ฆ่าคนไข้ได้ หลังสังคมโซเชียล แพร่ข่าว “ทุเรียนเทศแก้มะเร็ง” ซึ่งเป็นแค่ผลการทดลองในหลอดแก้ว ยังไม่มีรายงานใช้ในคนไข้จริงๆ ทำให้ไม่ทราบผลว่าจะฆ่ามะเร็งในตัวคนได้หรือไม่

แถมผลข้างเคียงต่อตับไตอันตราย พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯกว่า 40 % กินใบทุเรียนเทศ จนทำให้ตับและไตวายเฉียบพลันไปแล้วกว่า 10 ราย ผลคือหมอต้องเลิกให้ยารักษามะเร็งและหยุดรักษา ไปแก้ตับไตวาย หลายรายไม่รอด ที่น่า อนาจใจคือคนไข้จบชีวิต เพราะ "ทุเรียนเทศ" ไม่ใช่เพราะ "มะเร็ง"

นพ.เพชร อลิสานันท์ หน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา แผนกรังสีวิทยา รพ.จุฬา เผยว่า "ทุเรียนเทศ" เป็นพืชที่พบได้ในภูมิภาคป่าฝน เช่น แอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีชื่อที่หลากหลายในแต่ละภูมิภาค ในหลายๆ พื้นที่ได้ใช้พืชชนิดนี้รักษาโรคติดเชื้อ และในหลายประเทศก็มี"ความเชื่อ"ว่าใช้รักษามะเร็งได้ โดยที่ไม่มีหลักฐานหรือผลงานวิจัยในคนรองรับ

งานวิจัยของทะเรียนเทศถูกทำขึ้นในหลอดทดลองเพื่อดูปฏิกริยาระหว่าง สารสกัดใบ ทุเรียนเทศกับเซลล์มะเร็ง ซึ่งพบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งตับและมะเร็งเต้านมบางชนิด ซึ่งการพัฒนายามาใช้เพื่อรักษาโรคจำเป็นต้องผ่านการทดลองในหลอดทดลอง สัตว์ทดลอง และในมนุษย์อีกหลายขั้นตอนเพื่อประเมินประสิทธิภาพ และผลข้างเคียงทั้งระยะสั้นและระยะยาว ก่อนจะนำมาใช้ในมนุษย์อย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งต้องใช้เวลา

สรุปว่าหลักฐานทางการทดลองของทุกเรียนเทศจึงอยู่ในระดับต่ำและไม่ปลอดภัยที่จะนำมาใช้รักษามะเร็งเวลานี้ เนื่องจากในใบทุเรียนเทศไม่ได้ประกอบไปด้วยสารที่อาจจะมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งเท่านั้น ยังประกอบไปด้วยสารอื่นๆ อีกมากมายหลายชนิดที่การแพทย์ยังไม่ทราบว่ามีผลอย่างไรต่อสุขภาพโดยผลทำให้คนไข้ตายไปแล้วหลายราย

คนไข้ที่ทาน"ทุเรียนเทศ" ยังมีผลเกิดการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติ คล้ายกับผู้ป่วยโรค Parkinson เนื่องจากทุกเรียนเทศเป็นพิษต่อระบบประสาท ซึ่งบางงานวิจัยพบว่าพิษจากทุเรียนเทศ สามารถผ่านชั้นเยื่อหุ้มสมองเข้าสู่เนื้อสมองโดยตรงได้อีกด้วย และการรับประทานต่อเนื่องทำให้ตับและไตวายได้ ถึงเสียชีวิตในที่สุด

กรณีศึกษาที่ประเทศอังกฤษ นาย Andrew Harris ผู้ที่ขายทุเรียนเทศทางอินเตอร์เนต เพื่อรักษามะเร็ง ถูกศาลศาลตัดสินว่าโฆษณาสรรพคุณเกินจริง ถูกปรับ 350 ปอนด์ แล้วก็ต้องรายงานต่อศาล 2 ปี โดยที่เมืองไทย อย. ยังไม่มีการดำเนินคดี ซึ่งเร็วๆนี้เชื่อว่า ญาติผู้เสียชีวิตอาจแจ้งความเอาผิดผู้ขายได้

http://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/england/manchester/7608256.stm

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา ให้ความเห็นว่า การใช้สื่อ โซเชียลมีเดีย ในการนำเสนอความเชื่อการรักษาต่างๆนั้น ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณ บางครั้งเรื่องที่อาจเห็นว่าเป็นประโยชน์อาจกลายเป็นเรื่องไม่จริง และไปสร้างความหวังผิดๆทางการแพทย์ ให้กับประชาชนโดยเฉพาะ กรณีไม่แน่ใจโปรดหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้เช่นจากคณะแพทย์ สถาบันการแพทย์ หรือโรงพยาบาลต่างๆ หรือ ปรึกษาแพทย์ของท่าน ก่อนปรับเปลี่ยนการรักษา สำคัญที่สุดคือไม่แน่ใจอย่า ฟอร์เวิร์ด ทั้ง ไลน์ และ FB ท่านอาจเป็นต้นเหตุทำให้ เพื่อนท่านเสียชีวิตได้

สอบถามเพิ่มเติม :หน่วยรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ฝ่ายรังสีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โทร 02 256 4334

ขอบคุณที่มาจาก เฟซบุ๊ก Ittaporn Kanacharoen
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=946689775391829&set=a.115271105200371.14950.100001524474522&type=1&hc_location=ufi

ภาพจากเฟซบุ๊ก Drama-addict https://www.facebook.com/DramaAdd?fref=ts

[ตอบ #1 เมื่อ:]

เจ๊งกว่าคีโม 10,000 เท่า

[ตอบ #2 เมื่อ:]

พิมพ์ไม่ผิดหรอกครับ ความหมาย"เจ๊งกว่าคีโมพันเท่า" คือ อันตรายกว่าคีโมพันเท่า ประโยชน์มีแน่ แต่อันตรายมีมากกว่าเพราะทางการแพทย์ของไทย ยังไม่สามารถควบคุมอันตรายที่มีต่อตับและไต กับอันตรายที่เกิดกับระบบปลายประสาทของคนได้ จึงต้องรอผลวิจัยให้ได้ข้อสรุปก่อนที่จะนำมาใช้ในคน

[ตอบ #3 เมื่อ:]

ก็รู้ๆอยู่คนบ้านเราอะไรก็เชื่อขนาดหลอกกันซึ่งๆหน้ายังเชื่อเลย

[ตอบ #4 เมื่อ:]

แล้วกินผลมีอันตรายไหมครับ ผมชอบด้วยสิ

[ตอบ #5 เมื่อ:]

คุณคิดว่าคุณจะเชื่อใครระหว่างผลการวิจัยเกี่ยวกับใบทุเรียนเทศจากสหรัฐที่มีมาตั้งแต่ปี1976หมดเบินค่าวิจัยเป็นร้อยๆล้านเหรียญ ว่าสามรถป้องกันโรคมะเร็งได้ หรือคุณจะเชื่อแพทย์จากจุฬา(ระดับความน่าเชื่อถือยังไม่ได้มาตราฐานในระดับสากล)เพียงไม่กี่คนที่ยังไม่มีแม้แต่การวิจัยเกี่ยวกับใบทุเรียนเทศออกมาสรุปสั้นๆว่าอันตรายห้ามกินโดยที่ยังไม่รู้เรื่องจริงเกี่ยวกับยาตัวนี้ผลการวิจัยจากอเมริกาพบว่ารากและเมล็ดของใบทุเรียนเทศมีพิษค่อนข้างร้ายแรงทานเข้าไปอาจทำให้ป่วยเป็นโรคมือเท้าสั่นได้ ส่วนใบรับประทานได้แต่ห้ามเกินปริมาณที่กำหนดในแต่ละวันซึ่งถ้าหากเกินก็จะมีผลกับไตและเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ แต่ถ้าทานในปริมาณที่กำหนดก็สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้ ทางบริษัทยามะเร็งไม่อยากให้ประชาชนรู้เรื่องนี้หรอกเพราะมันจะทำให้ขายยาได้น้อยลงมันป็นเรื่องของผลปรโยชน์ล้วนๆ
ในอเมริกาได้ผลิตยาตัวนี้ในแบบแคปซูลและมีแต่ใบล้วนๆผลิตขายทั่วโลกคนเป็นร้อยเป็นพันคนลงความเห็นว่ากินแล้วดีขึ้นมะเร็งหดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดยังไม่เห็นใครลงรีวิวว่ากินแล้วตายเลย!!

หรืออาจเป็นเพราะคนไทยนิยมนำมาต้มกินเองและอาจคิดว่ากินเยอะๆจะได้หายเร็วซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดและยานี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต

ขอเตือนว่าจะพูดหรือให้สัมภาษณ์ขอให้รู้ลึกรู้จริงไม่อย่างงั้นจะทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งขาดหนทางรักษาอีกหนทางนึงโดยสมุนไพรจากธรรมชาติและกว่าจะรอผลการวิจัยจากประเทศไทย ป่านนั้นคนไทยคงตายเพราะโรคมะเร็งไปกว่าครึ่งประเทศแลัวมั้งว่าไหม???

[ตอบ #6 เมื่อ:]

ไม่ต้องอะไรมากหรอกครับ ถ้าคุณเป็นมะเร็ง พึงงดของหวานทุกชนิด ด้วยความที่ไม่รู้คือ อาหารของมะเร็งคือน้ำตาลและแป้ง ในผลไม้เกือบทุกชนิดมีน้ำตาลอยู่ในตัว ทุเรียนมีทั้งแป้งและน้ำตาล คนไทยควรเลิกเชื่ออะไรง่ายๆ มาหาความทางวิทย์กันจริงๆ เถอะ ตัวก่อมะเร็ง เร่งเชื้อมะเร็ง คืออาหารที่ทานเข้าไป บวกกับความเครียด พักผ่อนน้อย ตัวที่ฆ่ามะเร็งคือออโซน อากาศบริสุทธิ์ มีผู้ที่หายจากมะเร็งเลิกทานเนื้อสัตว์ และอาหารดัดแปลงทุกประเภท แทบจะปลูกผักกินเองเลย ผงชูรสงดเด็ดขาด พยายามไปในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ นั่งสมาธิ บำบัดความเครียด และวันนี้ก็ขอบอกคนที่ยังไม่เป็นมะเร็ง ระยะ1-3แทบไม่รู้ตัวนะครับ วันนี้ถ้าพวกคุณปฏิบัติตัวยังไงกันอยู่ ถ้าปรับเปลี่ยนได้ก็ทำสะตั้งแต่วันนี้

[ตอบ #7 เมื่อ:]

บางทีนักวิชาการก็น่าจะให้ข้อมูลได้มากกว่านี้นะคะ กินอย่างไรที่ให้โทษ กินอย่างไรให้คุณ ส่วนไหนที่เป็นพิษ นี่ไม่ระบุว่าอย่างไรถึงเป็นพิษ ผล มีพิษไหม เห็นตั้งแต่สมัย ทวด ปู่ ย่า ตา ยาย ก็กินมาตลอดที่บ้านมีหลายต้นเลยคะ แทนที่จะมาห้ามอย่างเดียวทำไม่ไม่หาวิธีวิจัย หาตัวสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อมะเร็ง แล้วสกัดมาเป็นยาอย่างถูกวิธี *** ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ http://www.dmsc.moph.go.th/dmsc/news_detail.php?id=328*** แล้วเรื่องกินใบทุเรียนเทศ ก็ควรกินแต่พอดี ห้ามกินสด แต่กินได้กรณีที่แห้งแล้วชงกินเหมือนชา คนที่เคยเป็นแล้วกินแล้วทำให้หายก้อเคยมี คนที่ให้คีโม กินแล้วทำให้ผลแอฟแฟค ที่เกิดขึ้นน้อยลง อย่างไรก้อตามทุกอย่างอยู่บนความพอดี **************** สำคัญที่สุดควรให้ข้อมูลข่าวสารทั้งสองทาง ทั้ง บวก และ ลบ**************** และหาวิธีเอาประโยชน์จากมันมาใช้ อย่ารอให้ฝรั่งทำก่อนแล้วมาขายเรา

[ตอบ #8 เมื่อ:]

ทุเรียนเทศ ต้องพนมมือด้วย.....ตึ่งๆโป๊ะ!!!

[ตอบ #9 เมื่อ:]

อ้างอิง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บอกว่ามีประโยชน์ http://www.dmsc.moph.go.th/dmsc/news_detail.php?id=328

ทำไมหมอนักวิชาการบ้านเราถึงไม่ให้ข้อมูลทั้งสองด้าน ทุเรียนเทศ หรือทุเรียนน้ำเป็นผลไม่มีมากในภาคใต้ ตั้งแต่จำความได้ก้อกินผลทุเรียนเทศมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายแล้ว และทุกคนก้อสบายดี ที่บอกว่ากินแล้วเป็นอันตรายขอให้ระบุ ว่าตรงไหนเป็นพิษ ทำไม่กรมวิทยาศาสตร์บอกว่ามีผลยังยั้งเซลล์มะเร็ง แทนที่จะมาห้ามทำไมไม่รีบวิจัยเพื่อสกัดส่วนที่เป็นประโยชน์มาทำยาแก้มะเร็ง หรือต้องรอให้ฝรั่งสกัดแล้วมาขายเราเอง ส่วนตัวรู้จักกับคนที่เขากินแล้วดีขึ้น

วิธีกินก้อคือห้ามกินใบสด ให้กินหลังจากอบ หรือ ตากแห้งกินเหมือนกับเราชงชากิน ทำไมเราถึงกินชาของญี่ปุ่นได้หละ ตอนนี้หลายคนก้อกำลังหาวิธีให้มีงานวิจัยมารองรับตรงนี้ แต่ท่าน นพ.จุฬา ห้ามอย่างเดียวเลย สำหรับคนที่เป็นมะเร็งจริงๆ เค้าไม่ได้มีทางเลือกหลายทางหรอก เค้าลองกินก้อไม่เสียหายแค่กินอย่างถูกวิธี และพอดี รักษาสองทาง

ท่าน นพ. ทั้งหลายช่วยเอาความรู้ที่ท่านเรียนมา ทำประโยชน์ต่อคนในชาติ ไม่ต้องใช้ยาแพงๆ สมุนไพรบ้านเรามีเยอะแยะ มีแต่คนที่อื่นมาเห็นคุณค่าแต่บ้านเรา บอกอันตราย

[ตอบ #10 เมื่อ:]

คนกินกันทั่วโลกข่าวว่ากินแล้วตายยังไม่เคยเจออย่างในอเมริกาเป็นแบบแคปซูลปลอดภัยกว่ามาต้มกินเองเหมือนในเมืองไทย
คัดบางส่วนคนที่เคยกินแล้วหายก็มีเยอะเป็นร้อยเป็นพันคนเอามาให้อ่านบางส่วนเช่นรายนี้ฝรั่งอเมริกัน
I ordered this for my Dad in November. He was diagnosed with bladder cancer in 2011. The cancer wasn't that bad for about 2 years. A polyp would grow and he would have it cut out. Then a black spot about the size of a quarter appeared, but no polyp. He was 83 years old at the time and his oncologist told him that surgery was out of the question at his age.Several months later the black spot had grown to cover the entire inside of his bladder. He went through only two chemo treatments as he could not tolerate it. The chemo was injected into his bladder and he had to hold it in for an hour, which he had no problem with, but for a week afterwards his bladder and prostate would burn. He said it felt like he was on fire. He began taking Graviola in November 2013. He started with one a day for the first bottle. After the first month he said he no longer had bladder pain and his urine was clear. His urine has had blood in it for almost two years. When he started on the second bottle he began taking two a day, one in the morning and one at night. Two weeks ago he said he was going to stop taking it and see how he felt. Out of the blue he got a call from the oncologist to come in for testing. The oncologist had previously told him there was nothing else to be done so we didn't expect to hear from him. My dad called me when he got home from to doc and told me that his bladder was no longer black and there were only two small pink spots. The doctor did a biopsy of the two sites and told him that he may try the chemotherapy again, according to what the biopsy reveals. He didn't tell his doctor about the Graviola though, and the doc probably would say that it was the two chemo treatments that were done in October that helped and not this supplement. So now I am ordering more because my Dad wants to continue taking it.

[ตอบ #11 เมื่อ:]

ไม่รู้คนอื่นเชื่อยังไง แต่นี้คือจากประสบการณ์ตรงเมื่อที่แล้ว มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะสุดท้ายไม่มีเงินทำคีโม นอนรอความตายอยู่ที่บ้านอย่างทรมาน ไร้ทางออก เรียกรวมญาติเพื่อดูใจครั้งสุดท้ายแล้วเนื่องจากคนไข้มีอาการทรุดเดินเหินไม่ได้แล้วนอนอย่างเดียว เชื่อมั๊ยด้วยใบทุเรียนเทศกับหญ้าหวานที่กินเข้าไป ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ยังมีชีวิตอยู่สามารถทำงานได้ปกติ...เราไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผู้หญิงคนนี้กินยาจากใบทุเรียนเทศอย่างมีสติ ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต มีสติมีกำลังใจมากขึ้นที่จะมีชีวิตอยู่.....นักวิชาการเมืองไทย หมอเมืองไทยให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันทำประชาชนสับสน....มีคำถามว่าทำไมหมอแผนปัจจุบันจึงแอนตี้แพทย์ทางเลือกหรือสมุนไพรกันยิ่งนัก ทำไมไม่ส่งเสริมประชาชนให้ป้องกันและรักษาก่อนป่วยเป็นดรค และทุ่มเทงานวิจัยไปซิว่าทำไมจะหาเครื่องมืออะไรที่สามารถตรวจเจอมะเร็งได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ใช่เจออีกทีเป็นระยะสุดท้ายแล้ว

[ตอบ #12 เมื่อ:]

ไม่ใช่เฉพราะคนหมาก็เป็นมะเร็งเหมือนกันลองอ่านดูเจ้าของซื้อใบทุเรียนเทศให้กินที่เอามาให้อ่านตัวเราไม่ได้ขายนะคะแต่มีคนรู้จักที่เค้าเป็นและกินใบทุเรียนเทศและดีขึ้นเยอะกว่าให้คีโม เลยไม่อยากให้คนไทยต้องพลาดกับสมุนไพรที่ดีเพียงเพราะคำพูดของนายแพทย์ไม่กี่คน
นพ เพชรที่มาพูดว่าอันตรายห้ามกินตัวนายแพทย์เองก็ยังบอกว่า"ส่วนตัวแล้วยังไม่รู้ในใบทุเรียนเทศมีสารอะไรบ้าง"ฟังดูแล้วคนพูดรู้จริงไหมคิดกันเอาเองละกัน!!!
นี่คือประสบการณ์จริงคะ Graviolaแปลว่าใบทุเรียนเทศ

My dog was diagnosed with cancer, he had one tumor removed and our vet thought he got it all. He said if another returns it had spread and cancer can go very quickly in dogs. A second tumor appeared a month later. I found this here on Amazon after extensive research online and after talking with a number of people from tropical countries who were cured by Graviola/Guanabana/Soursop. I figured since my best friend had a certain death sentence, what harm could it possibly do?
I give him 1 tablet a day mixed with cottage cheese and flax seed oil and I rubbed the powder from another capsule directly onto the tumor. In a few weeks it was gone! It's been 6 months now and no more tumors have appeared. Also he had lots of small skin tabs, a number of them have dried up and fallen off and the rest have either shrunk or stopped getting larger, the same thing has happened to a skin virus I had which is supposed to be incurable. Did this do it? I don't know, but he's going to get it for the rest of his life and I think I'll take it too.

[ตอบ #13 เมื่อ:]

ยาแผนปัจจุบันที่รักษาโรคเบาหวาน รักษาไปสุดท้ายผู้ป่วยก็เป็นโรคไตวาย

อันนี้ต่อให้อีกนิด ไม่ใช่เฉพาะสมุนไพรไทยหรอกครับ ยาแผนปัจจุบันก็เป็น

[ตอบ #14 เมื่อ:]

วันที่ 22 ก.ค 2558 เวลาประมาณบ่าย2
ได้โทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ แผนกรังสีรักษาและมะเร็งของโรงพยายาลจุฬา ว่าจริงหรือไม่ที่มีผู้ป่วยที่เสียชีวิตด้วยโรคไตและตับวายจากการกินใบทุเรียนเทศ .. เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ และไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลดี/ผลเสียของใบทุเรียนเทศ
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า การกินสมุนไพรทุกชนิดย่อมมีผลต่อตับทั้งนั้น
ผู้ป่วยต้องหาข้อมูลก่อนบริโภคหรือปรึกษาแพทย์ที่ดูแลรักษา

[ตอบ #15 เมื่อ:]

คือเรื่องของเรื่องหมออิทธพรได้อ่านข่าวในประเทศอังกฤษพบว่ามีคนขายใบทุเรียนอยู่รายนึงโดนปรับเป็นเงินประมาณ350ปอนด์(ถือว่าเล็กน้อยมาก)โดยการระบุว่าใบทุเรียนเทศสามารถรักษาโรคมะเร็งได้เนื่องจากการโฆษณาว่ารักษามะเร็งโดยตรงซึ่งในอเมกาหรือยุโรปเขียนแบบนั้นไม่ได้เพราะใบทุเรียนเทศเหมือนเป็นอาหารเสริมไม่ใช่ยา เหมือนวิตามินซี ที่ขวดก็จะไม่ให้เขียนว่ากินแล้วแก้หวัดหรือรักษาเลือดออกตามไรฟันแต่เราก็รู้สรรพคุณอยู่ว่ากินเพื่ออะไร หมอคนนี้คงไม่เคยอยู่ต่างประเทศเลยไม่รู้ว่าทำไมถึงโดนปรับซึ่งยังไม่รู้เรื่องจริงแล้วก็เอามาตีความเอาเองผิดๆ ถ้าใบทุเรียนเทศเป็นยาอันตรายมีหรอเมกาจะปล่อยให้ออกมาขายทั่วโลกที่นี่เค้าเข้มงวดทุกเรื่อง คนกินใบทุเรียนเทศเพื่อรักษามะเร็งอาการดีขึ้นมากมายเป็นหมื่นเป็นแสนคนกลับไม่พูดถึงแต่กลับพูดถึงคนสิบคนที่เสียชีวติจากการให้คีโมของหมอและกินใบทุเรียนเทศไปพร้อมๆกัน เพ็งเล็งแต่ส่วนเสียทำให้คนไทยพลาดโอกาสดีๆกับสมุนไพรที่ไม่ใช่แค่คีโม เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้หรอกว่าทุกคนกินแล้วดีขึ้นหมด หมอคนนี้เค้าเรียกฟังไม่ได้ศัพท์ก็จับมากระเดียดซะแล้วไม่ฉลาดเลยหมอคนนี้!!!!
หมอไม่ได้เก่งและฉลาดทุกคนจำไว้นะ

[ตอบ #16 เมื่อ:]

เป็นอันว่า ตัวข้าเป็นพนักงานขายของบริษัทผลิตทุเรียนเทศ ว่างั้นเหอะ
ใครตายช่าง ขอให้ขายได้ก่อน ได้คอมมิชชั่น เป็นพอ โหดไปไหม เติมศีลธรรมให้ชีวิตโสโครกหน่อยเถอะครับ

[ตอบ #17 เมื่อ:]

ขอหลักฐานที่ว่าเอาแบบของจริงนะครับ ส่ง www มาให้ดูหน่อย

[ไอค่อนข้อความ:]

	ปรากฎข้อผิดพลาดตังต่อไปนี้ขณะส่งข้อความนี้:
	คำเตือน: ความคิดเห็นนี้ถูกล็อกไว้! เฉพาะผู้ดูแลเท่านั้นที่ตอบได้
ชื่อ:
	แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:	ไอค่อนขณะนี้ กระทู้ทั่วไปเหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย กระทู้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน กระทู้สำหรับเด็ก กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 13 ปี กระทู้ที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี กระทู้เฉพาะไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
	ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา ขนาดตัวอักษร เล็กมาก เล็ก ปกติ ใหญ่ ใหญ่มาก เปลี่ยนสี สีดำ/ขาว สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีม่วง สีนํ้าเงิน/ฟ้า สีเทา สีน้ำตาล สีเขียวฟ้า สีกรมท่า สีเลือดนก สีเหลืองอมเขียว
	[เพิ่มเติม]
	กลับไปกระทู้นี้ หลังจากการตั้งความคิดเห็น ไม่ใช้สัญลักษณ์แสดงอารมณ์
แนบไฟล์:	(แนบไฟล์เพิ่ม) ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ :	ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
	ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ: