ช่วงวันพ่อที่ผ่านมา ผมได้รับชม youtube มีน้องผู้ชายคนนึงที่เค้าเล่นเพลงสรรเสริญพระบารมีด้วยกีตาร์คลาสสิกครับ เป็นมือกีตาร์คนไทยอีกคนที่ผมชอบสไตล์การเล่นของเค้าครับ ถ้าเป็นแนวคลาสสิกผมว่าน้องเค้ามาแนวอารมณ์กับเทคนิค ไม่ได้เน้นแนวใดแนวหนึ่งครับ
ตอนนี้ผมอยากให้ทุกท่านได้ฟังครับ
www.facebook.com/video.php?v=773125292760960
ตั้งแต่วันนั้นผมก็เริ่มหาผลงานของน้องคนนี้ครับ น้องคนนี้ชื่อ Ekachai Jearakul ( https://www.facebook.com/ekachai.jearakul )
เท่าที่ได้หาข้อมูลมาน้องคนนี้เค้าได้รับตำแหน่งชนะเลิศของรายการแข่งขันที่ใหญ่และยากที่สุด GFA ที่หลายสิบปีจะจัดครั้งนึง และรางวัลสำหรับผู้ที่ชนะคือ ทาง GFA เค้าจะจัด World Tour ให้น้องเค้าไปเล่นที่ 50ประเทศเลยครับ (สำหรับคนที่เล่นดนตรี ไม่ว่าจะคลาสสิก ป็อป ร้อค หรือ เฮฟวี่ ผมเชื่อว่านักดนตรีทุกคนต่างเคยมีความฝันที่จะไป World Tour โดยเฉพาะสาย Heavy Metal ที่นอกจากจะมี World Tour ของตัวเองแล้ว ยังต้องมี Stage แบบอลังการ
กล้องหมุนได้ 360องฮา ไม่ก็ มีพลุไฟพ่นออกมาตอนยกกีตาร์ขั้น Solo)
ผมค่อนข้างสนใจในการใช้ชีวิตของน้องเค้า เพราะน้องเค้าประสบความสำเร็จตั้งแต่เด็กๆ และที่สำคัญน้องเค้าประสบความสำเร็จในทางที่นักดนตรีหลายๆ คนฝันเอาไว้ครับ ผมและเพื่อนๆ ที่เล่นดนตรีกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทุกคนล้วนมีความฝันที่จะเป็นนักดนตรี แต่อาชีพนักดนตรีในไทยมันไม่ชัดเจน มันหาเงินไม่ได้ ในสายตาของผู้ใหญ่คือ อาชีพเต้นกินรำกิน ไม่มีรายได้ที่แน่นอน ผู้ใหญ่เลยไม่สนับสนุน ยิ่งในช่วงที่พวกผมยังเด็กวิธีการหาเงินมันไม่ได้ง่ายเหมือนยุคนี่ ที่ขายของออนไลน์สารพัดครับ พวกผมในช่วงนั้น ยอมรับตรงๆ เลยว่ายังขอเงินที่บ้านอยู่ เลยไม่มีปากมีเสียงในการเลือกเส้นทางของตัวเอง ดนตรีเลยเป็นได้เพียงทางสายรองครับ บทสนทนาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ผมกับเพื่อนสนใจว่าน้องเค้าทำอะไรยังไง มาเริ่มกันเลยครับ
ก้าวแรกของการเรียนดนตรี
พื้นเพน้องเค้าเป็นคน ต่างจังหวัดครับ ไม่ใช่คนกรุงเทพ น้องเบิร์ดเล่าให้ฟังว่า เด็กๆ ไม่ได้ชอบดนตรี น้องเค้าชอบเตะบอลตามประสาเด็กผู้ชายทั่วไป แต่มีวันนึงที่เห็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนกำลังซ้อมวงโย แล้วดูน่าสนใจ เลยเข้าไปสมัคร แต่ทางวงขาดคนเป่าทรัปเป้ต เลยเริ่มชีวิตนักดนตรีจากทรัมเป้ดในวงโยครับ พอเล่นได้ซักพัก เริ่มมาคิดได้ว่า เป่าทรัมเป็ดมันไม่เท่ เลยเริ่มหาเครื่องดนตรีอื่นมาเสริมความหล่อ พอดีมีรุ่นพี่วงโยคนนึงนั่งเล่นกีตาร์ น้องเค้าเลยเปลี่ยนสายดนตรีไปเป็นมือกีตาร์แทน ผมถามน้องเค้าว่า ในช่วงเริ่มเล่นกีตาร์ หาเงินซื้อกีตาร์จากที่ไหน น้องเบิร์ดเล่าให้ฟังว่า เนื่องจากที่บ้านของเค้าไม่ได้ร่ำรวย น้องเบิร์ดจึงหารายได้พิเศษมาจากการสอนดนตรีตามบ้านต่างๆ ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็น เก็บเล็กผสมน้อย จนได้กีตาร์ตัวแรก ราคา10,000บาท จากนั้นก็เก็บเงินจากการสอนดนตรีมาตลอดจนมีกีตาร์ดีๆ ไว้ใช้ประกวด
แรงขับเคลื่อนในการดำเนินชีวิตนักดนตรี
น้องเบิร์ดเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่เห็นรุ่นพี่วงโยเล่นกีตาร์ ก็ยึดเค้าเป็นแรงบันดารใจมาตลอด เพราะในตอนนั้นรุ่นพี่คนนั้นชนะเลิศกีตาร์ระดับประเทศ ทำให้น้องเค้ามีไอดอลในด้านนี้ น้องเค้าเล่นให้ฟังเพิ่มว่า อีกแรงบันดาลใจคือ การที่เป็นคนที่ไม่อยากแพ้ ถ้าตั้งใจทำอะไรแล้วต้องได้ที่หนึ่ง ไม่ชอบเป็นที่สอง เลยขยันซ้อมเล่นวันละ ประมาณ 4 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย ถ้าวันนี้ซ้อมแล้วคิดว่าดี แต่ผลออกมาว่าได้ที่สอง พรุ่งนี้ต้องซ้อมให้เยอะขึ้นและให้ได้ดีกว่าเดิม