บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ในปัจจุบันภาษาอังกฤษถือได้ว่ามีความสำคัญในการดำเนินชีวิตของเราเป็นอย่างมาก โดยที่ทุกวันนี้เราอยู่ในศตวรรษที่ 21 เป็นยุคแห่งเทคโนโลยี โดยเฉพาะแหล่งข่าวสาร เราสามารถพบเห็นสื่อภาษาอังกฤษได้อย่างมาก ทั้งในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร อินเทอร์เน็ต สำนักข่าวต่างประเทศ ฯลฯ ซึ่งการที่เราจะเข้าใจสาสน์ต่างๆ โดยข่าวสารที่ผู้คนให้ความสนใจและเป็นที่นิยมกันมากนั่นก็คือ ข่าวกีฬา
กีฬาฟุตบอลและเทนนิส เป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมและมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก และเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความสามัคคีกันในหมู่คณะ มักจึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชาย รวมถึงได้รับความสนุกทั้งผู้เล่นและกองเชียร์ รวมถึงสร้างมิตรภาพและสามารถพูดได้ว่ากีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่ไม่มีใครในโลกไม่รู้จักเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีการถ่ายทอดไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ส่วนกีฬาเทนนิส เป็นกีฬาสากลที่นิยมกันทั่วโลก
เพราะมีการแข่งขันและมีการเล่นกันอย่างแพร่หลาย มีการถ่ายทอดการแข่งขันไปทั่วโลก
ดังนั้นคณะผู้ศึกษา จึงได้จัดทำสมุดรวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษในหมวดหมู่กีฬา เพื่อช่วยในการอ่านและศึกษาข่าวกีฬาภาษาอังกฤษได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถสื่อสารกับผู้อื่น
ได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาค้นคว้าคำศัพท์ภาษาอังกฤษในเว็บไซต์ต่างประเทศในหมวดหมู่กีฬา ของกีฬาประเภทฟุตบอลและเทนนิส
2. เพื่อรวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษและจัดทำรูปเล่มคำศัพท์ในหมวดหมู่กีฬา ของกีฬาประเภทฟุตบอลและเทนนิส
3. เพื่อประเมินและทดสอบประสิทธิภาพของรูปเล่มคำศัพท์ภาษาอังกฤษในหมวดหมู่กีฬาของกีฬาประเภทฟุตบอลและเทนนิส
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.เพื่อให้เข้าใจคำศัพท์ภาษาอังกฤษของข่าวกีฬาฟุตบอลและเทนนิส
2.นำความรู้ที่ได้จากการศึกษาคำศัพท์ภาษาอังกฤษไปจัดทำเป็นรูปเล่มคำศัพท์
3.สามารถนำความรู้จากการศึกษารูปเล่มคำศัพท์ไปช่วยในการทำความเข้าใจกับเนื้อหาของข่าวกีฬาฟุตบอลและเทนนิสได้ดียิ่งขึ้น
ขอบเขตการศึกษา
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/7 จำนวน 40 คน โดยให้มีการทดลองใช้สมุดรวบรวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษในหมวดหมู่กีฬา ประเภทกีฬาฟุตบอลและเทนนิส หลังจากนั้นจึงให้ทำแบบประเมินสอบถาม
สมมติฐานการศึกษา
คาดว่าสมุดรวบรวมคำศัพท์ของกีฬาฟุตบอลและกีฬาเทนนิส จะสามารถช่วยให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/7 ทำความเข้าใจในข่าวกีฬาฟุตบอลและเทนนิสได้เป็นอย่างดี
บทที่ 3
อุปกรณ์และวิธีการดำเนินงาน
การจัดทำโครงงานคำศัพท์กีฬาฟุตบอลและเทนนิสที่มีในภาษาอังกฤษเพื่อให้เข้าใจเนื้อหาที่มีอยู่ในข่าวมากขึ้น มีอุปกรณ์และวิธีการดำเนินงานตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
อุปกรณ์ที่ใช้
1. คอมพิวเตอร์
1.1 โปรแกรม Microsoft Word
2. ฟิวเจอร์บอร์ด
3. กรรไกร
4. กระดาษ A4
5. แล็คซีน
6. เครื่องปริ้นเตอร์
7. แม็กเย็บ
8. กาวสองหน้า
9. สีไม้
10. อุปกรณ์
แต่งฟิวเจอร์บอร์ด
11. ใบสอบถาม
12. ใบประเมิน
13. รูปเล่มคำศัพท์
14. รูปเล่มรายงาน
15. พลาสติกใส
16. กระดาษ 100 ปอนด์
วิธีการดำเนินงาน
ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาค้นคว้า และรวบรวมข้อมูล
1. คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน
2. ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเรื่องที่น่าสนใจ คือ เรื่องคำศัพท์กีฬาฟุตบอลและเทนนิสที่มีในภาษาอังกฤษ ศึกษาเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ต่างๆ และจัดเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำเนื้อหาต่อไป
3. เรียบเรียงข้อมูลที่ได้ปรึกษาครูที่ปรึกษาเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดทำเนื้อหา
4. นำข้อมูลที่ได้มาทำตารางแบบสำรวจเกี่ยวกับสมุดรูปเล่มคำศัพท์และให้นักเรียนทำแบบประเมิน
5. นำข้อมูลการประเมินมาวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางในการอ่านข่าวกีฬาฟุตบอลและเทนนิสของผู้ประเมินส่วนมากที่เมื่ออ่านแล้วเข้าใจเนื้อหาของข่าว
6. จัดทำโครงร่างโครงงานแบบสำรวจ เพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษา
7. นำเสนอรายงานความก้าวหน้าให้ครูที่ปรึกษาได้ตรวจสอบ ซึ่งครูที่ปรึกษาจะให้ข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อให้จัดทำเนื้อหาและการนำเสนอที่น่าสนใจ ทั้งนี้เมื่อได้รับคำแนะนำก็นำมาปรับปรุงแก้ไขให้เป็นที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
8. จัดทำโครงงาน Sport News
9. ประเมินผลงานโดยให้ครูที่ปรึกษาประเมินผลงานและให้เพื่อนผู้ที่สนใจร่วมเป็นผู้ประเมิน
ขั้นตอนที่ 2 การจัดทำรูปเล่มคำศัพท์
1. นำกระดาษ 100 ปอนด์มาพับครึ่ง
2.ออกแบบหน้าปกให้สวยงาม
3. รวบรวมคำศัพท์
4. เรียงพยัญชนะตาม A-Z
5. จัดรูปเล่มคำศัพท์
6. พิมพ์ลงในคอมพิวเตอร์
7. ปริ้นเนื้อหาคำศัพท์
8. จัดรูปเล่มคำศัพท์
9. นำงานทั้งหมดมาเย็บเล่มโดยใส่กระดูกงู
10. ได้รูปเล่มที่เสร็จสมบูรณ์
ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์ข้อมูล
การวิเคราะห์ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/7 ที่มีต่อสมุดคำศัพท์เล่มเล็ก กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างประเทศ เรื่อง Sport News โดยใช้แบบสอบถามความคิดเห็น มีลักษณะที่ใช้มาตราส่วนประเมินค่าของลิเคิร์ต (Likert’s Rating Scale) มี 4 ระดับดังนี้
ดีมาก มีค่าน้ำหนัก 4
ดี มีค่าน้ำหนัก 3
พอใช้ มีค่าน้ำหนัก 2
ปรับปรุง มีค่าน้ำหนัก 1
การนำ
คะแนนมาหาค่าเฉลี่ย (Mean) และนำค่ามาเปรียบเทียบดังนี้
หาค่าเฉลี่ย (Mean) 3.50 - 4.00 หมายถึง ดีมาก
หาค่าเฉลี่ย (Mean) 2.50 – 3.49 หมายถึง ดี
หาค่าเฉลี่ย (Mean) 1.50 – 2.49 หมายถึง พอใช้
หาค่าเฉลี่ย (Mean) 0 – 1.49 หมายถึง ปรับปรุง
บทที่ 4
ผลการทดลองและวิเคราะห์ผล
จากตารางสรุปได้ว่า ผลการประเมินในภาพรวมพบว่ามีผลการประเมินค่าเฉลี่ยเท่ากับ 79.1 อยู่ในระดับดี ทั้งนี้เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า เนื้อหาสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด 87.5 รองลงมาได้แก่ ความถูกต้องของเนื้อหา, ความเหมาะสมของปริมาณเนื้อหา, ความชัดเจนในการอธิบายเนื้อหา, ความเหมาะสมของการสรุปเนื้อหา, ความน่าสนใจในการดำเนินเรื่อง, ความรู้ที่ได้จากสมุดคำศัพท์แล้วนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน, ความเหมาะสมของเนื้อหากับระดับของผู้เรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 87.5, 82.5, 77.5, 75, 70 เรียงตามลำดับ