การซื้อรถต้องดูหลายอย่างมากครับ เช่นต้องดูรถว่า มีการชนมาหรือเปล่าเป็นอันดับแรกๆ ยิ่งถ้าชนหนักก็ยิ่งต้องดูเยอะครับ การซื้อรถนั้นต้องดูเรื่องของ ยี่ห้อ รุ่น ปี ระยะไมล์ สี และสภาพโดยรวมครับ และน้ำท่วมมาหรือเปล่า และสุดท้ายในการเลือกซื้อก็คือความชอบและราคา และการยอมรับสภาพนั้นครับ หลายคนก็คงมีประสบการณ์ไม่มากก็น้อย กรณีการดูว่ามีการชนหนักมาหรือเปล่า ก็ต้องดูที่คานหน้าคานหลังซุ้มประตู ประมาณนั้นมันจะมีรอยยุบหรือรอยดัดมา รอยยื่นมา จะมีรอยให้เห็นครับสังเกตุดีๆ ครับ ส่วนระยะไมล์ ถ้าเข้าศูนย์ฺตลอดก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่เข้าศูนย์ไมล์อาจจะบอกไม่ได้ 100% เพราะอาจจะมีการถอยไมล์ เราก็ไม่อาจรู้ได้ รถวิ่งเยอะอาจถอยมาไม่ให้วิ่งเยอะก็ได้ครับ ส่วนการดูสี สีรถก็อาจจะต้องเคาะดูรถ ส่วนใหญ่ก็ที่เรียกกันว่าบางทั้นคันครับ คำที่เขาใช้เรียกกัน ก็คือบางทั้งคัน ไม่มีการทำสีใดๆ มาเลย สีเดิมๆ แต่ถ้าทำสีมา ก็อาจจะสังเกตุด้วยตาเปล่าว่า มีคลื่นของแลคเกอร์หรือเปล่าครับ แต่ถ้าซ่อมห้างก็อาจจะมองไม่ออกครับ เพราะศูนย์เขาน่าจะทำได้มาตรฐานกว่าอู่ทั่วไปๆ แต่ก็ดูออกครับแลคเกอร์ที่เคลือบมามันจะเป็นคลื่นถ้ามองทะแยงมุมครับต้องมองมุมรอบทิศทาง และลองเคาะตัวรถย์ดูครับ และที่สำคัญก็การดูน้ำท่วม น้ำท่วมโดยรวมแล้วจะดูไม่ค่อยออกครับด้านนอกถ้าทำมาแล้ว ต้องเปิดห้องเครื่องดู หรืก้มดูด้านล่าง ก็จะเห็นรอยสนิมครับ ส่วนใหญ่ก็ดูรอยสนิมที่มีตามจุดที่ช่างไม่สามารถปรับสภาพได้ครับ แต่ถ้าเปิดดูตรงคอนโซน ผมว่าน่าจะเจอแน่นอน แต่ลำบากในการเปิดครับ จะมีสนิมขึ้นอย่างเยอะแน่นอน ส่วนเรื่องราคา ก็แล้วแต่ละรุ่นยิ่งมีรถรุ่นตัวใหม่ออกมาเรื่อยๆ รถมือสองก็จะถูกเรื่อยๆ ถ้าเรามีรถมือสองจะขาย ก็อาจจะได้ราคาที่ตำสุดๆครับ แต่ถ้าเราจะซื้อรถมือสองก็ต้องหาซื้อที่ Tent หรือ ศุนย์ ที่ไว้ใจได้นะครับ จะได้ไม่โดนหรอก ไม่ว่าจะซื้อจะขายรถมือสอง ราคาก็ขึ้นอยู่กับข้อความดังกล่าวที่ผ่านมาครับ ก็มีการตรวจเช็คให้ดีก่อนซื้อครับ