แค่นี้ก็บอกได้แล้ว

ขอพูด ถามความรู้สึก และ มีคดีแบบเดียวกับ คุณหมอนิ่ม คือ 1. หมอนิ่ม ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เป็นภรรยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2. ทายาทของ เอํกซ์ มี 4 คน คือ บุตร 2 คน ผู้สืบสันดาน พ่อ และแม่ เป็นทายาทโดยธรรม ส่วหมอนิ่ม เป็นห้นส่วน กิจการอะไรที่ทำร่วมกัน ให้แบ่งกัน ส่วนของเอก็ซ์ คือ ทรัพย์มรดก ต้องนำมาแบ่งให้ทายาทโดยธรรม ซึ่งกฎหมายกำหนดแบบนั้น จะยอมหรือไม่ยอม ก็ต้องตามกฎหมาย ซึ่งเราจะปฏิเสธไม่ได้
ตอนน้ี หมอนิ่ม หันมาหวงสมบัติแล้ว ว่าพ่อแม่เค้าอยากได้ คุณ ต้องเข้าใจว่า ถ้าลูกเขายังอยู่ ลูกเค้ายังให้กินอยู่ มากบ้างน้อยบ้าง แต่วันน้ี คุณฆ่าลูกชายเค้า เพื่อสมบัติ คุณคิดผิดว่า ถ้าเอ็กซื ตายไปสมบัติจะตกเป็นของคุณ และลูก แต่ ๆ แล้ว พ่อแม่มีสิทธิ เป็นทายาทลำดับ 2 รองจากผ็ุศืบสันดาน แต่แบ่งทรัพย์สินเท่ากับผู้สืบสันดาน

หน้าที่อย่างหนึ่งของลูกคือ ดูแลพ่อแม่ เมื่อมีคนมาพรากชีวิตลูกไปก่อนวัยอันควร ไม่มีโอกาสดูแลพ่อแม่ ไม่มีโอกาสทำหน้าที่ลูก เงินชดเชยเหยื่ออาชญากรรมเพียงเล็กน้อยแม้จะไม่เทียบไม่ได้กับสิ่งที่พ่อแม่เสียไป แต่ก็จะทำให้ผู้เสียชีวิตอย่างน้อยได้มีโอกาสตอบแทนบุญคุณพ่อแม่บ้าง

รู้สาเหตุการฆาตกรรม - - เศรี้าใจจริงๆ เงิน เงิน เงิน

หมอนิ่ม คุณ กระทำอะไรไป ไม่ได้ศึกษาข้อมูลให้แน่นอน และพูดอะไรเอาดีเข้าตัว และจำคำพูดตนเองไม่ได้
1. แจ้งความเอ็กซ์ ทำร้าย จนเอ็กซ์โดนจับขังคุก
2.หมอนิ่ม เคลียดจัดจนแท้งลูก ขณะ เอ็กซ์ โดนจับแล้ว ท้องได้ 2 เดือน
3. หมอไปเอาทรัพย์สิน ในเชฟ ธนาคาร โดยอ้างเป็นภรรยา เอกุญแจไปเปิด ทั้ง ๆ ที่เอ็กซ์ อยู่ในคุก
4 พอเหตุการณ์ แดงขึ้น ว่าเป็นภรรยาไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็คงคิดว่าทรัพย์สินจะตกเป็นของบุตร
5. แต่กฎหมาย กำหนดให้ พ่อแม่ เป็นทายาทโดยธรรม ลำดับที่ 2 เที่ยบเท่าชั้นบุตร
6. ตลอดเวลา บอกว่า โดนเอ๊กทำร้าย ตอนแท้ง เอ็กซ์ยังอยู่ในคุก
7. เอ็กซ์ ตายก็บอกว่า น่าจะท้องกับเอ็กซ์อีก และบอกว่าจะทำตัวให่เหมือนกับต้องการ แต่งตัวก็ให้เหมือนกับเอ็กต้องการ หมอนิ่มก็แต่งตัวดี การวางตัวก็เหมาะสม ทำไมต้องทำตัวตามที่เอ็กซ์ต้อง
คำพูดที่ ขัดกันเอง พูดมาก มันก็ออกมามากเช้นกัน จากการทำร้ายร่างกาย ตอนน้ีกลายมาเป็นทรัพย์สินแล้ว กลายเป็น พ่อแม่เอ็กอยากได้สมบัติแล้ว
เราเข้าใจ เพราะเราก็อยู่ในสภาพเดียวกัน และคดีอยู่ในศาล เหมือนกัน

ลูก ชั่้ว ทำผิดแล้วให้แม่ รับผิดแทน เลวจริงๆ ไม่มีที่เปรียบแล้ว

คนตายไปแล้วพูดไม่ได้หร๊อกคุณหมอ ถ้าเขาไม่ดีก็เลิกกับเขา ไม่เห็นถึงขั้นต้องฆ่าต้องแกงกัน

คุณนั่นแหละช่างหน้าไม่อาย โลภ

ทำความเข้าใจใหม่นะครับถึงหมอนิ่มจะไม่ได้จดทะเบียน หมอนิ่มก็เป็นภรรยาโดยชอบทาง กม. นะครับ หลักฐาน สูติบัตรที่คุณเอ็กซ์รับเป็นพ่อ แค่นี้ก็จบแล้วครับ อย่ามั่ว พฤติการณ์แบบนี้หมอนิ่มมีส่วนหรือไม่พิสูจน์ได้ไม่อยาก หลักฐาน พยานทาง ผู้ให้บริการโทรศัพท์เพียบ ต่อให้คุณมีเบอร์เติมเงิน แอบไว้โทรตรงไหน มันบอกได้หมดครับพวกนี้

เฮ้อ...

หมอนิ่มเป็นผู้หญิงที่แย่มากโยนความผิดให้แม่ตัวเองรับเพียงเพื่อเงินตัวเดียว ที่ทำได้ทุกอย่าง เฮ้อเวรกรรม

แค่คิดก็ชั่วแล้วนิ่มไม่น่าเป็นหมอเลยวุฒิภาวะไปไหนหมด คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมมีสิทธิเสมอก่อนที่เขาจะโตขึ้นมาได้ไม่ใช่เพราะพ่อแม่เขาหรือ บ้าไปแล้วอยู่ รพ ไหนเนี่ยอยากรู้จังจะได้ไม่ไปรักษา

มันชอบด้วยกฎหมายตรงไหนครับคุณพี่ เมียไม่ได้จดทะเบียน ลูกก็ส่วนลูก แต่เมียไม่ได้จดทะเบียน ตามกฏหมายแล้วไม่ได้มีส่วนเกียวข้องกับมรดกเลย ถ้าได้ก็คือลูก และพ่อแม่ผู้สืบสายเลือดเท่านั้น..

จริง ๆ แล้วไม่รู้ว่าที่หมอบอกว่าท้อง 2 เดือนแล้วแท้งคือ ท้องเดือนไหน แล้วแท้งเดือนไหน เพราะจากการเสพข่าวจากสื่อรู้สึกว่าทั้งสองมีปัญหากันมาค่อนข้างนานเหมือนกันนะ แต่ไม่รู้ว่ายังสามารถท้องด้วยกันแน่ะ แล้วเอ็กซ์ถูกจับเดือนไหนออกมาเมื่อไหร่ แล้วแท้งเมื่อไหร่ ไม่รู้แน่จริง ๆ

ความเห็นที่17 คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ ตามกฎหมายถึงแม้ในสูจิบัตรจะระบุชื่อคุณเอ็กซ์เป็นพ่อ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นความผูกพันแต่ประการใด ทั้งต่อตัวบุตรหรือต่อตัวหมอนิ่ม บุตรจะเป็นบุตรชอบโดยกฎหมายของผู้เป็นสามีได้ก็โดยการจดทะเบียนสมรสกันของสามี-ภรรยา ถึงแม้จะมีการระบุชื่อสามีในสูจิบัตรก็หาผูกพันใดไม่ เว้นเสียแต่คุณเอ็กซ์จะไปจดทะเบียนรับรองบุตรภายหลัง และในกรณีนี้ถึงแม้ถ้าหมอนิ่มได้จดทะเบียนสมรสกับคุณเอ็กซ์จริง แต่ถ้าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าหมอนิ่มมีความผิดในคดีฆ่าคุณเอ็กซ์ หมอนิ่มก็จะไม่ได้สมบัติใดๆในส่วนที่เป็นของคุณเอ็กซ์ทันที เพราะการที่ทายาทโดยธรรมฆ่าบุคคลผู้เป็นเจ้าของมรดก มรดกส่วนที่ตนจะได้รับนั้นถือเป็นโมฆะ

เลว

ผมเข้าใจผิดเรื่องโพสเมื่อกี้ แต่เคยทำรายงาน ฎีกา เรื่องนี้มา 2 ครั้งเดี๋ยวหารายละเอียดก่อน
สามีภริยาได้ทำการสมรสกัน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2478 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังที่ได้ใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แล้ว โดยมิได้จดทะเบียนกันนั้น ไม่ถือว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะมาตรา 1457 บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งว่า การสมรสจะมีได้เมื่อได้จดทะเบียนสมรสกันแล้วเท่านั้น ชายและหญิงที่อยู่ด้วยกันดังกล่าวจึงไม่เป็นคู่สมรสต่อกัน บุตรที่เกิดมาก็ถือว่าเป็นบุตรของหญิงฝ่ายเดียว สินส่วนตัวและสินสมรสไม่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามทรัพย์สินที่ชายหญิงคู่นี้ได้ลงทุนร่วมแรงทำมาหาได้ร่วมกัน ระหว่างที่อยู่กินด้วยกันนั้น ถือว่าเป็นเจ้าของร่วมกันและมีส่วนในทรัพย์สินเหล่านั้นคนละครึ่งเท่ากัน ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรม เพราะการที่ชายหญิงแต่งงานกันโดยมิได้จดทะเบียนสมรส แม้ทางกฎหมายจะไม่ถือว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็หาการกระทบกระเทือนถึงสิทธิในทรัพย์สินที่ชายหญิงจะพึงมีได้ตามกฎหมายทั่วไปไม่

ขอเพิ่มเติมว่า เมื่อบตรที่เกิดจากภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ถือว่าเป็นบุตรนอกสมรสของสามีค่ะ ถึงแม้จะมีชื่อหรือคุณเอ็กซ์ในสูจิบัตรก็ตาม เว้นเสัยแต่คุณเอ็กซ์ไปจดทะเบียนรับรองบุตร บุตรถึงจะเป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณเอ็กซ์ ในกรณีที่คุณเอ็กซ์ไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร บุตรทั้งสองของคุณเอ็กซ์ก็ไม่มีสิทธิในมรดกใดๆของคุณเอ็กซ์ทันที ทายาทโดยชอบธรรมลำดับแรกของคุณเอ็กซ์ก็เหลือแต่บิตาและมารดาเท่านั้น แต่ถ้าหากว่าบิดาและมารดาคุณเอ็กซ์ไม่ได้ทำการสมรสกัน และบิดาคุณเอ็กซ์ไม่ได้จดทะเบียนรับรองคุณเอ็กซ์เป็นบุตรเช่นเดียวกัน มรดกทั้งหมดของคุณเอ็กซ์ก็จะตกแก่มารดาแต่เพียงผู้เดียว

ขอโทษครับที่ทำให้เข้าใจผิด ผมเข้าใจว่าเหมือนแสดงออกว่าการรับรองบุตรว่าเป็นพ่อไป เท่ากับว่าคนทั่วไปทราบกันดีว่านี่คือ สามี และ ภรรยากันแล้วซึ่งมีหลายคดีที่ อยู่กินด้วยกันแต่ไม่รับว่าเป็นสามีภรรยากัน

สุดท้ายก็เรื่องเงินนะแหล่ะนะ
เรื่องเก่าๆ ที่ว่าทะเลาะกันไม่มีประเด็นเลยนะแหม่คนเรา

จิตใจทำด้วยอะไรกัน

ในทรัพย์สินที่หามาได้ร่วมกันต้องไปแบ่งตามฏีกานั้นถูกต้องแล้วค่ะ แต่นี่เราหมายถคงทรัพย์มรดกในส่วนของคุณเอ็กซ์ เพราะฉะนั้นในส่วนทรัพย์มรดกหมอนิ่มจะมาเป็นทายาทโดยธรรมแล้วมามีส่วนแบ่งได้แต่ประการใด

จะมีผู้สืบสันดานลำดับสองได้ก้ต่อเมื่อผู้สืบสันดานลำดับหนึ่งไม่มีนั่นก้คือลูก ถ้าลูกไม่มีก้ตกกับพ่อแม่ แล้วถ้าพ่อแม่ตายหมดก้จะเปนผู้สืบสันดานลำดับสามคือน้องแต่ถ้าเปนลุกคนเดียวก้จะต้องยกให้หลานแต่ถ้าไม่อีกถึงจะตกมาถึงคู่สมรส แล้วถ้าไม่มีอีกก้จะตกเปนของแผ่นดิน ไปอ่านกฎหมายมาใหม่นะ ยังไงพ่อแม่ก้ยังไม่ชอบธรรมถ้าจะทวงสิทธิเพราะลำดับที่หนึ่งยังมีชีวิต เว้นเสียแต่ว่าลำดับที่หนึ่งจะแบ่งให้ตามสมควร