หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: วิสัยทัศน์เจ้าสัวธนินท์ 2020 รถไฟ...ชาวนา...เศรษฐกิจ "ถ้าเป็นผม 6 ล้านล้านผมก็ทำ  (อ่าน 7496 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 27 ต.ค. 13, 12:39 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

วิสัยทัศน์เจ้าสัวธนินท์ 2020 รถไฟ...ชาวนา...เศรษฐกิจ "ถ้าเป็นผม 6 ล้านล้านผมก็ทำ"



เจ้าสัวซีพี "ธนินท์ เจียรวนนท์" ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ ตอบคำถามพร้อมอธิบาย เมื่อถูกถามถึงประเด็นที่กำลังร้อนแรงเกี่ยวกับโครงการ "การลงทุน 2.2 ล้านล้าน" ของรัฐบาลชุดปัจจุบันเพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบรางทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า และไฮปสปีดเทรน

เป็นการฉายภาพจากประสบการณ์ตรงที่สั่งสมมานานของมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 3.93 แสนล้านบาท ผ่านมุมมองธุรกิจ เศรษฐกิจ การเมือง

ท่ามกลางนักธุรกิจและคนที่สนใจล้นหลามในงาน 20 ปี มูลนิธิไทยคม เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

เจ้าสัวธนินท์ ขยายความว่า รถไฟความเร็วสูงไปถึงที่ไหน ที่ดินตรงนั้นก็ขึ้น เป็นการขึ้นทั้งประเทศ

ดังนั้น การลงทุน 2 ล้านล้านของรัฐบาลถือเป็นเรื่องที่ควรทำและควรรีบทำโดยเร็ว

"2 ล้านล้าน ตอนนี้ ถือว่าจิ๊บจ๊อยมาก เป็นผม 6 ล้านล้านผมก็ทำ ถ้าโครงการครั้งนี้ไม่ผ่าน ต่อไป 6 ล้านล้าน ในอนาคตไม่รู้จะสร้างได้หรือเปล่า ไม่มีประเทศไหนทำรถไฟรางคู่แล้วล่มจม โดยดูได้จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของแต่ละประเทศ ก็จะเห็นภาพชัดทั้งญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือเกาหลีใต้"

ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ยังยกตัวอย่างรถไฟความเร็งสูงของญี่ปุ่นด้วยว่า ชินคันเซ็นของญี่ปุ่นรถไฟความเร็วสูงกว่า 200 ก.ม./ช.ม. เมื่อสร้างเสร็จประเทศญี่ปุ่นเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็วเพราะเมื่อรถไฟความเร็วสูงไปถึงที่ไหนทำให้แถวนั้นเจริญขึ้น ที่ดินราคาสูงขึ้น

เมืองไทยจำเป็นต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรถไฟรางคู่ นอกจากช่วยขนคนยังขนสินค้าด้วยทำให้ต้นทุนถูกลง ทำให้ต่อไปไทยจะกลายเป็นจุดศูนย์กลางที่แท้จริง ไปถึงเมืองจีน พม่า เขมร ลาว และอินเดีย ตลาดยิ่งใหญ่อยู่ที่จีน พม่า ไทย อินเดีย ซึ่งจีนที่มีจำนวนประชากร 1,300 ล้านคน อินเดีย 1,000 ล้านคน พม่า 60 ล้านคน ไทย 70 ล้านคน



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 27 ต.ค. 13, 12:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่สำคัญโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้าน ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และจีดีพีสูงขึ้น การจ้างงานสูงขึ้นได้ทันที

การที่ประเทศไทยมีแผนการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยตัวเอง เจ้าสัวธนินท์ยังมองว่าเป็นทางเลือกที่ดีท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจในต่างประเทศ

"เช่นเดียวกับตอนนี้ทุกคนกังวลกับเศรษฐกิจอเมริกา ซึ่งเป็นธรรมดาเพราะปกติพออเมริกาป่วยปั๊บก็ดึงเอายุโรปป่วยไปด้วย แต่อาการเที่ยวนี้แปลกประหลาดมาก เพราะไม่ได้ดึงให้เอเชียป่วยตาม

ผมมองว่า เป็นเพราะว่า พออเมริกาป่วย ยุโรปป่วย แล้วเงินไปไหน มองไปมองมาเอเชียกำลังรุ่งเรือง หุ้นก็ยิ่งถูกลงๆ เงินก็ไหลกลับมาทางเอเชียทำให้สนุกกันใหญ่ หุ้นก็ขึ้น ทองคำก็ขึ้น

และพออเมริกาเริ่มฟื้นคนก็เห็นโอกาสของอเมริกา เงินที่ไหลมาทางเอเชียจะถอนกลับ ถอนกลับมากที่สุดคืออินเดีย ที่ 2 คืออินโดนีเซีย ผมว่าเมืองไทยสะเทือนเหมือนกันแต่ไม่มาก"

มุมมองของนายธนินท์ยังเชื่อว่า เมื่อเงินต้องไหลกลับอเมริกาก็อาจทำให้มีวิกฤตแน่นอน...แต่แค่ชั่วคราว

กระนั้น ถ้าไม่มีวิกฤตก็ไม่มีโอกาส แต่เมื่อมีโอกาสก็ย่อมต้องมีวิกฤตอันนี้แน่นอนของคู่กัน ครั้งนี้มองว่าเพียงชั่วคราวเงินกลับไปก็ต้องไหลกลับมาแน่นอน เพราะว่าเอเชียกำลังเติบโตและเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้นแน่นอน

"เมื่ออเมริกาดีขึ้น ยุโรปก็ต้องดีขึ้น เมื่อยุโรปดีขึ้น เอเชียก็ต้องดีขึ้น" เจ้าสัวสรุป

เขายังวิเคราะห์สถานการณ์ในมุมบวกว่า ช่วงนี้จึงกลายเป็นโอกาสสำคัญของจีน เพราะจีนเป็นพี่เบิ้ม จีนต้องการเข้ามาสู่อาเซียน จึงเป็นโอกาสดีของอาเซียนและประเทศไทย



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 27 ต.ค. 13, 12:48 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

"วันนี้จีนนอกจากจะเอานักธุรกิจมาลงทุนในไทย ยังชวนนักธุรกิจไทยไปลงทุนที่เมืองจีนด้วย อยากแนะนำให้รัฐบาลไทยควรให้มีบีโอไอมาส่งเสริมนักธุรกิจไทยไปลงทุนต่างประเทศ ไม่ใช่ส่งเสริมให้แต่นักธุรกิจในต่างประเทศมาลงทุนในเมืองไทย

แน่นอนว่าการแข่งขันทางการค้าย่อมสูงขึ้น ต่อไปถือว่าเป็นสงครามเศรษฐกิจ เขามาเราไป เขามาลงทุนเอากำไรของเรากลับบ้าน เราก็ต้องไปลงทุนต่างประเทศเอากำไรคืนกลับบ้าน สนามรบเป็นสนามการค้า เมื่อไปลงทุนกับที่ไหนเพื่อนบ้านยิ่งต้องสนิทกัน พึ่งพาอาศัยกันทำประโยชน์ซึ่งกันและกัน"

นอกจากนี้ เจ้าสัวซีพี ยังย้ำว่า ควรจะหมดยุคได้แล้วที่มัวแต่จะคิดขายแรงงานอย่างเดียว กดค่าครองชีพ เพื่อให้มีแรงงานต่ำ ไปผลิตสินค้าราคาถูกๆ

และตอกย้ำมุมคิดที่เขายึดมาตลอดนั่นคือ ต้องผลักดันให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นและเกษตรกรต้องมีรายได้ที่ดี

"สิ่งที่อยากจะบอก ถ้าประเทศไหนเกษตรกรไม่ร่ำรวย ประเทศนั้นก็จะไม่ร่ำรวย ร่ำรวยก็จะไม่แน่นแฟ้น ไปศึกษาดูได้เลยทั่วโลก มีประเทศไหนไม่ปกป้องสินค้าเกษตร แม้กระทั่งอเมริกาเหลือเกษตร 1% ก็ยังต้องปกป้อง ไม่ใช่ว่าต้องเอามาเลือกตั้งหาเสียง แต่เกษตรกรคือเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ ถ้าสินค้าเกษตรตกต่ำ เงินก็ต่ำไปด้วย มันเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ มันยิ่งกว่าน้ำมันอีก ผมเรียกว่าเป็นน้ำมันบนดิน

ลองไปศึกษาว่าจริงไหม ว่ามีประเทศไหนที่เจริญได้ เกษตรกรไม่รวย ทำให้ WTO ก็ยังมีปัญหาอยู่ เพราะต่างคนต่างบอกว่าไม่ได้ ผมต้องปกป้องสินค้าเกษตร ปกป้องทรัพย์สมบัติของเขา แต่ประเทศที่ด้อยพัฒนาแทบทุกประเทศยังไม่เข้าใจ กลัวคนจนในเมืองกินของแพง เลยกดราคาสินค้าเกษตร กดทรัพย์สมบัติตัวเองหดตัว ราคาสินค้าถูกยิ่งกว่าน้ำมัน



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 27 ต.ค. 13, 12:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สินค้าเกษตรเลี้ยงมนุษย์ น้ำมันเลี้ยงเครื่องจักร ทีนี้ถามกลับว่าเครื่องจักรสำคัญหรือมนุษย์สำคัญ ถ้ามนุษย์สำคัญกว่า แต่ทำไมผู้ผลิต supply ให้กับมนุษย์ถึงจนเอาจนเอา มีเหตุผลไหม? มีแต่ประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนานี่แหละ กลัวที่สุดคือสินค้าเกษตรสูง"

เจ้าสัวธนินท์ยังมองว่า คนใดที่กลัวราคาสินค้าเกษตรแพง นั่นหมายความว่าคนเหล่านั้นไม่เข้าใจเศรษฐกิจ ไม่ไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์

"ประวัติศาสตร์ไม่ได้เรียนรู้แต่เฉพาะการเมือง เศรษฐกิจยิ่งต้องไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ อย่างเมื่อก่อนไต้หวันยากจนกว่าเมืองไทยตั้ง 8 เท่า แล้วทำไมใช้เวลา 20 ปี เศรษฐกิจไต้หวันล้ำหน้าประเทศไทย ตอนนั้นเงินเดือนต่ำกว่าคนไทยตอนนั้น 8 เท่า ที่ผมไปปี 1960 แต่ข้าวสารกิโลละ 10 บาท แต่เราเงินเดือน 800 ข้าวสารกลับกิโลละ 3 บาท

เพราะทุกประเทศในโลกนี้ไม่มีคนไหนที่ปู่ย่าตายายหรือทวดหรือรุ่นขึ้นไปไม่ใช่เป็นชาวนา สมัยก่อนไม่มีอุตสาหกรรม มีแต่ชาวนา แล้วถ้าคนส่วนใหญ่ไม่มีกำลังซื้อ ประเทศจะร่ำรวยได้อย่างไร ตอนนั้นไต้หวันเองก็ไม่เหมือนจีน และไม่เหมือนไทย ใครจะกล้าไปลงทุนไต้หวัน ประชากรมีอยู่ 10 กว่าล้านคน"

มองในมุมของการพัฒนาเปรียบเทียบกับประเทศที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย ไต้หวันใช้เวลา 20 ปีสร้างตัวเองขึ้นมาและเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก เกาหลีใต้ใช้เวลา 27 ปีร่ำรวยและเดินทางไปเที่ยวทั่วโลก

"ญี่ปุ่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะเขาถือว่าซามูไรเป็นมือขวา ชาวนาเป็นมือซ้ายของจักรพรรดิ เพราะมือขวานี้ปกป้องประเทศ มือซ้ายเลี้ยงคนทั้งประเทศ แล้วไม่สำคัญได้อย่างไร"

แต่ประเทศที่ด้อยพัฒนาละเลยการยกระดับเกษตรกร นั่นต่างหากที่ทำให้ประเทศยากจน

ดังนั้น รัฐบาลที่มีฝีมือต้องทำให้คนในเมืองรวยขึ้น เกษตรกรรวยขึ้น กำลังซื้อเกิดขึ้น รัฐบาลมีภาษีมากขึ้น เกษตรถึงจะเข้าสู่อุตสาหกรรม



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 27 ต.ค. 13, 12:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

"ตอนนี้เราเนื้อหอม ก็ต้องฉวยโอกาส นโยบายรัฐบาลปัจจุบันนี้ถูกต้องที่สุด เราคบทุกประเทศ แล้วใครให้ประโยชน์เราสูงเราก็คบมาก เหมือนเวลามีทางเลือก ทำไมต้องไปผูกกับคนเดียว ญี่ปุ่นเราก็ต้องคบ รัสเซียก็ต้องคบ จีนถ้าให้ประโยชน์เราสูง เราก็คบมากหน่อย ไม่มีใครว่า"

ก่อนที่เจ้าสัวซีพีจะทิ้งท้ายแบบมองมุมบวก และให้ความหวังกับคนไทยเต็มที่ว่า

"ผมมองวันนี้ ขอให้การเมืองนิ่งหน่อย คนไทยจะร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์"

นั่นคือวิสัยทัศน์ 2020 ของประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่พร้อมจะร่วมขบวนรถไฟความเร็วสูง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและเชื่อว่า ประเทศไทยเต็มไปด้วยโอกาส ณ เวลานี้



noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 28 ต.ค. 13, 19:04 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คนรวยพูดอะไรก็เหมือนกันหมด...ชาวบ้านได้แต่มองตาปริบๆๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 28 ต.ค. 13, 19:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

"ผมมองวันนี้ ขอให้การเมืองนิ่งหน่อย คนไทยจะร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์"

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 29 ต.ค. 13, 14:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

หากเป็นเงินส่วนตัวของท่าน ก็ไม่มีปห. บริหารเองเลย...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เจ้าสัว!
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 29 ต.ค. 13, 16:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*073 แล้ว ความพอเพียง เจ้าสัวเรียนรู้หรือยังว่าสมควรจะทำอย่างไร q*073

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ไหม!
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 29 ต.ค. 13, 16:58 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*073อยากให้เจ้าสัวไปแสดงวิสัยทัศน์ที่เอธิโอเปียจะดีกว่าเพราะว่าจะเป็นการท้าทาย แต่ที่นี่ประเทศไทยเขาเรียกควบรวมเบ็ดเสร็จ อนาคตก็จะอยู่ในกำมือใคร q*073

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 29 ต.ค. 13, 19:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ท่านคงไม่รู้จัก"เศรษฐกิจพอเพียง"จริงๆด้วย....

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ss
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 31 ต.ค. 13, 10:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ก็บอกว่าคุ้ม ท่านขอสัมปทานลงทุนเองเลยซิครับ ท่านไปเทียบกับประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่จำเป็นต้องใช้ กับประเทศเรายังมีป่าเขาอีกมาก ท่านคิดได้พูดได้เพราะท่านมีฐานะดี ลองคนจนพูดเหมือนกับท่าน คงโดนสับจนเละ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ญาดา
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 1 พ.ย. 13, 08:58 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

มันขาดทุน แล้วจะคุ้มได้ไง ระบบรางคู่เอาให้ได้ก่อนเถอะ เอาเงินคุณซิคะลงทุน แล้วคุณก็บริหารเองไปเลยดูซิว่ามันจะคุ้มค่าไหม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ยิ่งรวย ยิ่งโกง
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 1 พ.ย. 13, 12:57 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*039เจ้าสัวเอาญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ มาเปรียบกับไทยไม่ได้ เพราะนักการเมืองไทยกินกันมโหฬาร กินกันจนทำให้ต้นทุนค่าโดยสารแพงหูฉี่ ทุกวันนี้คนงด.น้อยไม่กล้าขึ้นรถไฟฟ้าครับ ไป-กลับ ได้ค่าข้าว2มื้อ นี่แค่หนึ่งตย. แล้ว 3ประเทศที่กล่าวมา ปชช.เขาช่วยกันจับนักการเมืองที่โกงกิน แต่พี่ไทยเรา เอ็งโกงข้าไม่ว่า ขอให้ข้าได้กิน q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
xxx007@hotmail.com
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 2 พ.ย. 13, 09:40 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผมจะรอดูว่า Makro โดน CP all สอยไป ทั้งๆ ที่ มีปัญหาให้แก้ไขเยอะ มันไม่ง่ายเหมือนหลอกไก่ให่ไข่อุตลุตโดยหลอกไก่(เลี่ยงแบบ evap)ในที่สุด ก็แก้ไขได้ ขอคารวะเจ้าสัว 1 ครั้ง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
natta
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 7 พ.ย. 13, 22:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

โดยสรุปท่านต้องการให้ที่ดินราคาแพง แล้วให้คนไทยขาย...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
สอนเป็นเจ้าสัวบ้างสิ!
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 15 พ.ย. 13, 11:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เจ้าสัวธนินทร์คิดแต่ผลประโยชน์ตน ไม่คิดบริหารคนคือชาวนาให้มีการบริหารจัดการท้องที่นาให้เจริญก้าวหน้าเยี่ยงชาวนาของญี่ปุ่นนั้นน่ะ มันต้องกระทำก่อนน๊ะเพื่อสร้างความมั่นคงในการดำรงชีวิตและต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา ให้ชาวนาเขาได้เดินทางไปดูงานการทำนาของคนญี่ปุ่นเอาไว้บ้างก็จะดี เขาจะได้คิดค้นหาวิธีที่จะมาเปรียบเทียบกับการทำนาของประเทศไทยนั้นได้ ท่านคิดแต่จะผลิตบุคคลากรมาทำหน้าที่ค้าขาย ไม่คิดผลิตให้คนไทยไปเป็น เจ้าสัว บ้างหรือนั่น คิดแต่จะผลิตลูกจ้างให้แต่เครื่องเจ้าสัวอย่างเดียวหรือกระไร แล้วเรื่องร้านนี้น๊ะให้จำกัดขอบเขตกันบ้างน๊ะเห็นเปิดไปทั่วนั้นได้ แล้วก็จะขยัยขยายไปยังท้องทุ่งนาให้ลูกหลานชาวนาทิ้งการทำนามาเป็นลูกจ้างเจ้าสัวเรียนรู้เรื่องการค้าขาย อีกหน่อยก็คงไม่มีคนทำนา ต้องเปิดโรงเรียนทำนากันอีกไหมเล่านั่น ก็เพราะเจ้าสัวมองแต่กำไร แต่ต้นทุนไม่เห็นเข้าไปบริหารจัดการให้ชาวนามีที่นาที่มั่นคง มีปุ๋ยที่ดี มีกำลังวังชา มีกำลังใจ มีที่ดินทำกินขยับขยายมากขึ้นนั้นได้ มีระบบป้องกันนายทุนที่ไม่หวังดี มีระบบที่ประกันชีวิตชาวนาและลูกหลานของเขาให้ประกอบอาชีพได้มั่นคงสืบทอดไปสู่ลูกหลานของเขาต่อไป เยี่ยงนี้เจ้าสัวคิดอยู่หรือไม่

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
น๊ะ!
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 22 พ.ย. 13, 12:05 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*069 ปัจจุบันต้นทุนของประเทศไทยถูกทำลายเกือบหมดสิ้น ไม่เคยคิดที่จะรักษาต้นทุนของประเทศไทยเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และสถาบันทั้งสามก็ถูกทำลายสิ้น ทุกสิ่งนี่คือต้นทุนของประเทศไทย แต่พวกนักลงทุนทั้งหลายกลับมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป ถามว่า เคยคิดที่จะรักษาต้นทุนของประเทศไทยเอาไว้ให้อนุชนรุ่นหลังเขาได้ศึกษาหาความรู้บ้างไหมว่าประเทศไทยนี้กำเนิดมาจากอะไร มันเกิดมาจากรูไม้ไผ่กันเหรอถึงจะทำลายให้หมดสิ้นไปนั้นได้ เคยคิดเรื่องเหล่านี้ได้ไหม อย่าทำเป็นตบหัวแล้วลูบหลัง หรือว่ากระทำแบบเสียไม่ได้ในประเทศไทย คนไทยที่เขารักชาติบ้านเมืองแต่เขามิได้มีโอกาสที่จะแสดงความเป็นเจ้าของออกมา เขาก็เหลือรับประทานแล้วล่ะกับปัญหาต่างๆ ที่สะสมอยู่นี่ในประเทศไทย ได้เวลาสังคยนาหรือยังล่ะประเทศไทย q*069

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
น้อย
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 9 ม.ค. 14, 13:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทำไมไม่ทำของเก่าให้ดีกว่าเดิมอีกสักหน่อยล่ะครับ เหมือนบ้านเรานั้นและ มันเก่ก็ปรับปรุง ต่อเติม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 9 ม.ค. 14, 16:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เจ้าสัว บอกว่ายังไงก็ต้องอย่างนั้น ดูตัวอย่างที่ทำกับ ซีพ๊ ก็ได้ ถ้าคุณอยู่ในเครือทุกอย่าง โอเค แต่ถ้าอยู่ข้างนอกไม่มีวันได้เกิด รถไฟความเร็วสูงต้องมีประโยชน์แน่ๆ กับโครงข่ายคนรวย นักธุรกิจระดับชาติอย่างท่าน แต่สำหรับพวกเดินดิน ร้านโชห่วยที่ปิดกิจการจนแทบไม่เหลือให้เห็นในประเทศ น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่า นโยบายต่างๆ ถ้ามากเกินไปผลที่ได้ก็คือการสูญพันธ์ของรายย่อย และการผูกขาดของรายใหญ่ ต่อไปประเทศไทยจะเหลืออยู่แค่สองชนชั้น คือคนรวย กับคนจน คนชั้นกลางที่ทำมาหากินอิสระ จะค่อยๆ หายไป ตอนนี้ในเมืองร้านค้า ร้านอาหารที่ไม่ใช่ระบบ แฟรนไชน์ค่อยๆ หายไป ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เรียกว่าการพัฒนาหรืออะไร

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 12 ก.พ. 14, 17:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ภูเขาทางเหนือที่กลายเป็นเขาหัวโล้นที่ชาวเขาบุกรุกปลูกข้าวโพดส่งบริษัทในเครือซีพี เจ้าสัวจะช่วยเยียวยาอย่างไรบ้าง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 12 ก.พ. 14, 17:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นด้วยที่ว่าคนเป็นอันดับ 1 เงินเป็นอันดับ 2 แล้วจะเอาคนที่ไหนมาพลิกฟื้นรถไฟไทยให้มีกำไรบ้าง มองเห็นบ้างไหม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  เป็น ถ้า ล้าน  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม