นักข่าวสาว..สอนมวยจำนำข้าว !!!

เรื่องจริงไม่ได้อิงนิยาย..ผลประโยชน์ของประชาชนคนไทยล้วนๆ..

ทุกคนรอความจริงอยู่ครับท่าน..

นักข่าวสาว (คนที่ 1) : ท่านคะ..แปลว่าเราจะรู้ตัวเองขาดทุนจริงเมื่อเราระบายสต๊อคของรัฐบาลออกไปจนหมด..อย่างนั้นป่ะคะ

รมว.พาณิชย์ (บุญทรง เตริยาภิรมย์) : ถูกต้อง

นักข่าวสาว (มีสมอง) : เมื่อไหร่อ่ะ..คะ (มีเสียงผู้หญิงแซวว่า..อีก 10 ปี 555+)

รมว.พาณิชย์ (บุญทรง เตริยาภิรมย์) : กำลังระบายให้อยู่นะเนี่ย (เริ่มหน้านิ่ว)

นักข่าวสาว (คนที่ 2) ท่านคะ..คือกระทรวงพาณิชย์นี่รับจำนำมา 3 ครั้ง จะบอกว่ารับจำนำมา จ่ายเงินไป แล้วก็ขายไปโดยไม่รู้ว่าขาดทุนเท่าไหร่ อย่างนั้นเหรอค๊ะ?

รมช.พาณิชย์ (ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ): คือตัวเลขมันไม่ได้บรรจบกันเป็นปีๆ นะครับ คือมันไม่ได้...

นักข่าวสาว (คนที่ 2): (วีนแตก..เบย อิอิ) ทำไมเราไม่พูดความจริงว่าคุณข้าวที่อยู่ในสต๊อคราคามันจะต้องต่ำลงไปอีกอ่ะ ไหนจะเสียค่าเก็บค่าโน่นค่านี่อีก มันไม่มีทางที่จะสูงไปกว่าราคาที่รับจำนำได้ มันไม่มีทางที่จะขายได้ 800 เหรียญอ่ะค่ะ..แค่ถามว่าใช้เงินไปเท่าไหร่? ขาดทุนไปเท่าไหร่? ถ้าบอกว่ามันมีประโยชน์ได้ ทำไมตอบไม่ได้ว่ามันขาดทุนไปเท่าไหร่อ่ะคะท่าน ทำไมมันยากนักคร๊า ตอนอนุมัติงบประมาณ..เห็นแบบง่ายจังเลยอ่ะ แค่ถามว่าขาดทุนเท่าไหร่..ทำไมโยนไปโยนมา ต้องมีนั่งกันตั้ง 4-5 คน 4-5 ท่านอ่ะ เป็นผู้ใช้เงินโดยตรง เป็นผู้เกี่ยวข้องกับโครงการโดยตรง ทำไมตอบประชาชนไม่ได้ละคะ?..ชมคลิป

เต้น ยอมฃาดทุนจำนำข้าว เพื่อช่วยชาวนา ........ชาวนาใหนหว่า

สำหรับผลขาดทุนจากการดำเนินโครงการ 3 ฤดูกาลผลิตนั้น คณะกรรมการปิดบัญชีฯยืนยันผลขาดทุน ณ เดือนม.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 2.29 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการรับจำนำข้าวนาปีฤดูผลิตปี 2554/55 จำนวน 4.2 หมื่นล้านบาท การรับจำนำข้าวนาปรัง ปี 2554/55 จำนวน 9.3 หมื่นล้านบาท และการรับจำนำข้าวนาปีฤดูผลิตปี 2555/56 อีกจำนวน 8.4 หมื่นล้านบาท เมื่อนับรวมผลขาดทุนเฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท จนถึงสิ้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เท่ากับว่าผลขาดทุนโครงดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 2.6 แสนล้านบาท**

สั่งสบน.กู้เพิ่ม4หมื่นล้านโปะจำนำข้าว
"กิตติรัตน์"สั่งสบน.เร่งหาเงินกู้อีก 4 หมื่นล้าน "โปะจำนำข้าว"หวังให้จบโครงการ ขณะที่คณะกรรมการปิดบัญชี พร้อมแจงที่มาตัวเลขขาดทุน 2.6 แสนล

จำนำข้าวไทย-ไถ่ข้าวกัมพูชา (คมชัดลึก)

หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 รายงานข่าวว่า การส่งออกข้าวของกัมพูชาในปีนี้เป็นที่น่าพอใจ รวมถึงการมีการส่งออกข้าวไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชียเพิ่มขึ้นด้วย ประธานสหพันธ์ผู้ส่งออกข้าวของกัมพูชา กล่าวว่า ปริมาณการส่งข้าวไปยังยุโรปซึ่งเป็นตลาดดั้งเดิมของกัมพูชายังคงเพิ่มขึ้น แม้เปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งในตลาดจะลดลง ขณะที่ตลาดในเอเชียกลับสดใสขึ้น ข้าวกัมพูชาเป็นที่ต้องการของมาเลเซีย ประเทศไทย และจีน ซึ่งรวมกันแล้วมีปริมาณ 40,500 ตัน หรือ 34 เปอร์เซ็นต์ของการส่งข้าวออกในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ทั้งนี้ ประเทศในเอเชียทั้งสามนับเป็นลูกค้าข้าวรายใหญ่ของกัมพูชารองลงมาจากโปแลนด์ และฝรั่งเศส

สี่เดือนแรกของปี 2556 กัมพูชาส่งข้าวออกไปต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 118,504 ตัน สูงกว่าระยะเดียวกันของปีที่แล้ว 130 เปอร์เซ็นต์ โดยในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาได้ทำสัญญาซื้อ-ขายข้าวกับประเทศต่างๆ อาทิ จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศสมาชิกประชาคมยุโรป เพื่อเปิดตลาดข้าวของตน ทั้งนี้ ข้าวซึ่งเป็นที่นิยมในจีนและมาเลเซียได้แก่ข้าวหอม ซึ่งแม้ว่ากัมพูชาจะสามารถปลูกข้าวหอมได้ในปริมาณที่เพียงพอ แต่กัมพูชายังต้องแข่งขันในเรื่องราคา ที่เวลานี้ข้าวหอมกัมพูชามีราคาสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศผู้ผลิตรายอื่น ขณะที่การส่งข้าวไปขายในยุโรปนั้น กัมพูชาเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์จากการที่ประชาคมยุโรปยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีสินค้าแก่ข้าวของกัมพูชา โดยเฉพาะข้าวซึ่งกัมพูชาเสียภาษีขาเข้าในอัตรา 175 ยูโรต่อตัน แทนที่จะเป็น 224 ยูโรต่อตัน ตามปกติ อันเป็นผลมาจากข้อตกลงของประชาคม และจากการที่สหประชาชาติจัดอันดับกัมพูชาไว้ในกลุ่มประเทศที่ด้อยพัฒนา

ในปี 2555 กัมพูชาส่งข้าวไปยังจีน เป็นปริมาณ 2 ล้านตัน และคาดว่าตลอดปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2.5 ล้านตัน จากประมาณการว่าจีนจะนำเข้าข้าวในปี 2556 เป็นจำนวน 3.25 ล้านตัน สำหรับไทยนั้น เป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการนำเข้าข้าวจากกัมพูชาในระดับสูง

สาเหตุสำคัญที่ทำให้การส่งออกข้าวของกัมพูชามาประเทศไทยสูงขึ้น เนื่องมาจากนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2554 ซีอีโอ ของกลุ่มโรงสีโลรานกรุ๊ป กล่าวว่า การส่งข้าวจากกัมพูชาไปยังไทยนั้น ส่วนหนึ่งถูกส่งไปในรูปของข้าวที่บรรจุถุงเรียบร้อย แต่ก็มีพ่อค้าข้าวของไทยบางรายซื้อข้าวเปลือกกัมพูชาเพื่อไปดำเนินการสีในประเทศไทยเนื่องจากข้าวเปลือกจะมีราคาถูกกว่า

ตัวเลขของทางการกัมพูชาแสดงให้เห็นว่า 5 เดือนแรกของปีนี้ ข้าวกัมพูชาที่ผ่านการสีแล้วส่งออกไปยังประเทศไทยในปริมาณ 14,250 ตัน จากจำนวนข้าวที่ส่งออกทั้งหมด 118,504 ตัน การจำนำข้าวของรัฐบาลอาจไทยไม่ได้มีผลต่อการค้าข้าวของกัมพูชาโดยตรง แต่ทำให้พ่อค้าข้าวไทยมีความต้องการข้าวจากกัมพูชาเพิ่มขึ้น นายจาม ประสิทธิ์ รัฐมนตรีพาณิชย์กัมพูชากล่าวว่า ไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งการเติบโตการส่งออกข้าวของกัมพูชา เมื่อใดก็ตามที่ราคาข้าวไทยสูงขึ้น ก็จะทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกสูงตามไปด้วย และชาวนากัมพูชาก็จะได้รับประโยชน์จากราคาข้าวที่สูงขึ้น

ไม่รู้ชาวนาไทยหรือชาวนาเขมรกันแน่ที่รวย..?

CR กลุ่มปัญญาชนคนอีสาน

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน