ร้อนตับแตก!!!ที่ลำปาง 39.8 องศา นี่คือผลจากการเผา..?

..ผลจากการเผาป่า..ตัดต้นไม้..

"ลำปาง" ร้อนหนัก!!! อุณหภูมิสูงถึง 39.8 องศาฯ ส่งผลร้านค้า ร้านเพิงพักริมฝั่งแม่น้ำวังมีปชช.-นักทท. แวะพักผ่อนหลบร้อนคึกคัก เครื่องดื่ม อาหาร ขายดีเทน้ำเทท่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (19 มี.ค.) สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดลำปางส่งผลทำให้สภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยเฉพาะในเขตเชื่อมต่อระหว่าง อ.เถิน -อ.สบปราบ ถือว่าร้อนจัดมาก โดยอุณหภูมิสูงสุด วัดได้ที่ 39.8 องศาเซลเซียส แต่ทั้งนี้สภาพอากาศที่ร้อนจัดกลับส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะร้านค้าริมทาง และที่พักริมถนนพหลโยธินสายตาก-ลำปาง ขาขึ้น พื้นที่หมู่ 6 บ้านวัฒนา ต.สบปราบ อ.สบปราบ ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำวัง พบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาหลบร้อน พักผ่อน ตลอดทั้งวัน ทำให้บรรยากาศการค้าขายอาหาร-เครื่องดื่ม บริเวณที่พักริมฝั่งแม่น้ำวัง กลับมาคึกคักอีกครั้ง สร้างรายได้ให้บรรดาพ่อค้า-แม่ค้าในช่วงหน้าร้อนได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

http://www.tnews.co.th/html/news/53502/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B8%81!!!-%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94-40-%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AF-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B6%E0%B8%9A.html

ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) จุฬาลงกรณ์หาวิทยาลัย กล่าวภายในการสัมมนาวิชาการ เรื่อง ผลกระทบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อประเทศไทย ว่า สภาพภูมิอากาศของประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 20 -30 ปีข้างหน้า และจะค่อยๆ รุนแรงขึ้น เห็นได้จากอัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล โดยเฉพาะบริเวณทะเลอันดามันจะสูงกว่าอ่าวไทย เนื่องจากการเปลี่ยน แปลงของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และปริมาณฝนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยบริเวณชายฝั่งทะเลจะเกิดฝนตกถี่ขึ้น

เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้นการเกิดโรคระบาดอาจเพิ่มขึ้น และจากการศึกษาแบบจำลองสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ในอีก 30 -80 ปีข้างหน้า พบว่า จำนวนวันร้อนที่สูงกว่า 33 องศาเซลเซียสจะมีมากขึ้นประมาณ 30-60 วันต่อปีจากปกติ 20 วันต่อปี ทั้งนี้ จังหวัดที่มีวันร้อนมากที่สุด คือ อุทัยธานี เนื่องจากมีพื้นที่อยู่ในหุบเขา รองลงมาคือ นครสวรรค์

ส่วนจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมากนัก คือ ขอนแก่น สกลนคร และชัยนาท สำหรับจำนวนวันเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียสจะมี ประมาณ 30-40 วันต่อปีจากเดิมประมาณ 20-30 วันต่อปีเท่านั้น โดยจังหวัดที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันตกจะมีจำนวนวันเย็นมากที่สุด

“ประเทศไทยควรหามาตรการรับมือ กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ควรศึกษาสภาพความสมบูรณ์ของป่าไม้ การนำพืชไปปลูกให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งต้องมีการจัดหาแหล่งน้ำ การดูแลสุขภาพและสาธารณสุขของประชาชน โดยเฉพาะการจัดการโรคและพาหะของโรคที่เกิดจากโลกร้อน” ดร.อานนท์ กล่าว

http://www.sc.chula.ac.th/hof/53_Res18.html

ขอบคุณภาพประกอบจากinternetครับ

การแผ้วถาง การบุกรุกทำลายป่า การเผาสิ่งต่างๆ ทำให้ความร้อนที่มีมากับแสงแดดติดค้างอยู่ในสภาวะแวดล้อม ลองถอดรองเท้าเดินย่ำบนผิวดินดู..ร้อนจนทนไม่ได้เชียวล่ะ..
แต่ว่า ความร้อน ไม่ได้ทำให้ตับแตกหรอกครับ..
ตับแตก จะเกิดกับพวกที่วิ่งเก่งๆ ที่เขาเรียกกันว่าตับแตก วิ่งตับแตก ว่าวตับแตก หมายถึงว่าวที่ชักไม่ขึ้นซั๊กที เจ้าของวิ่งจนเหนื่อยตาย เขาเรียกว่าตับแตก..
ส่วนความร้อน เขาเรียกว่าร้อนตับแลบ..ผมก็ไม่รู้ว่า เขาร้อนกันอย่างไร ตับถึงแลบออกมาได้..
ไงๆ..ปีนี้ หากว่าอากาศร้อนมากนัก ก็อย่าไปเที่ยวออกกำลังกายอย่างหักโหมกันนะครับ..เด๋วตับจะแลบออกมาได้ครับ..

อ้างจาก: hellocar ที่ 20 มี.ค. 13, 12:35 น

ร้อนตับแตกมีจริงๆครับ..ด้วยความห่วงใยครับ..

ร้อนตับแตกจระเข้ร่างทรง"หลวงปู่คำ"สิ้นใจสลด

http://www.dailynews.co.th/thailand/114323

ตับโตเกิดขึ้นได้อย่างไร

"ตับโต" เป็นอาการแสดงของโรค หมายถึง อาการที่ตับมีขนาดบวมโตกว่าปกติจนสามารถคลำได้ (ตับขนาดปกติจะซ่อนอยู่บริเวณชายโครง คลำไม่พบ แต่ถ้าโตขึ้นจะแลบลงมาอยู่ใต้ชายโครงจนคลำพบได้) ซึ่งอาจมีสาเหตุได้ต่างๆ เช่น ตับอักเสบ ตับแข็ง หรือเกิดจากโรคติดเชื้ออื่นๆ (เช่น ไข้เลือดออก ไทฟอยด์ ฝีในตับ) เป็นต้น ซึ่งมีอาการอื่นๆ ประกอบร่วมด้วย เช่น มีไข้ ตาเหลือง ตัวเหลือง ปวดจุกแน่นท้อง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น โรคแต่ละชนิดก็จะมีอาการประกอบที่แตกต่างกันไป

การรักษาและผลการรักษาขึ้นกับสาเหตุที่เป็น เช่น ถ้าเป็นตับอักเสบจากไวรัสชนิดไม่รุนแรง ก็มีโอกาสหายขาดได้ ถ้าเป็นตับแข็งก็มักจะเป็นเรื้อรังตลอดชีวิตส่วนการจะกลับมาเป็นอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ตับโตเช่นกัน เช่น ถ้าเป็นตับอักเสบก็ควรงดเหล้าเป็นปี ถ้าเป็นตับแข็งควรงดเหล้าตลอดไป เพราะเหล้ามีพิษทำลายตับ ขืนกินต่อไปจะไม่มีเนื้อตับที่ดีหลงเหลืออยู่ ร่างกายก็จะเสื่อมทรุดจนยากที่จะเยียวยา ถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับตับควรพักผ่อนอย่าทำงานหนัก ห้ามดื่มเหล้า ส่วนอาหารควรกินอาหารพวกโปรตีน ถ้าเบื่ออาหาร ควรดื่มน้ำหวานหรือกินของหวาน ถ้ามีอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องอืดท้องเฟ้อร่วมด้วย ควรงดอาหารมัน

ตับแข็ง

อาการของโรคตับแข็งในผู้ป่วยระยะแรกเริ่ม มักไม่มีอาการผิดปกติ ส่วนใหญ่ตรวจพบโดยบังเอิญ โดยอาจมีอาการอ่อนเพลีย หมดแรง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ น้ำหนักตัวลด เป็นต้น ถ้ารุนแรงมากขึ้น อาจจะสังเกตพบว่าผิวหนังและตาขาวของผู้ป่วยจะมีสีเหลือง ผู้ป่วยอาจมีอาการท้องมานน้ำและขาบวม ฝ่ามือมีสีแดงเข้มผิดปกติ พรายย้ำช้ำเขียวตามผิวหนัง มักเกิดบริเวณหน้าอก และหัวไหล่ นอกจากนั้นอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ติดเชื้อง่าย อาจมีอาการทางสมองเช่น ซึม สับสน ความทรงจำเสื่อม ขาดสมาธิ จนถึงขั้นไม่รู้สึกตัว
ตับ เป็นอวัยวะที่ช่วยขจัดสารพิษและเชื้อโรคออกจากร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับโรคติดเชื้อ สร้างโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบในการทำให้เลือดแข็งตัว ตลอดจนสร้างน้ำดี ซึ่งมีหน้าที่ช่วยการดูดซึมไขมันและวิตามินชนิดละลายในน้ำมัน เมื่อตับถูกทำลายจนไม่สามารถทำงานได้เช่นเดิมอีกต่อไป ทำให้เกิดเป็นโรคตับแข็ง โรคร้ายที่คร่าชีวิตประชากรโลกด้วยความทุกข์ทรมานเฉลี่ยปีละ 25,000 คน โรคตับแข็งเป็นสภาวะตับที่เกิดแผลขึ้นหลังจากมีการอักเสบของเนื้อตับ และเกิดพังผืดแข็งแทรกในตับ ทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่สะดวกเนื่องจากถูกอุดกั้น
อาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคตับแข็ง อาจแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ อาการที่เกิดจากการทำงานของตับลดลง และ อาการที่เกิดจากความดันเลือดในตับสูง

อาการที่เกิดจากความดันเลือดในตับสูง

เกิดจากพังผืดดึงรั้งในตับ ทำให้การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ เกิดเส้นเลือดขอดในหลอดอาหาร ผู้ป่วยอาจมาด้วยอาการอาเจียนเป็นเลือด เนื่องจากเส้นเลือดที่หลอดอาหารขอดแล้วแตก ซึ่งอาจถึงช็อกและเสียชีวิตได้ ในรายที่เป็นมากอาจซึม หรือในระยะยาวอาจเกิดมะเร็งตับได้

CR internet.

อืมส์..ร้อนตับแตกเป็นอย่างนี้เอง..ดีนะ..ที่ยังไม่ระเบิด ไม่งั๊น เขาคงจะเรียกว่าร้อนตับระเบิด..แน่ๆๆ

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน