หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: “โฆษณาแฝง” ขุมทรัพย์นักเล่าข่าว?  (อ่าน 15206 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 12 ต.ค. 12, 22:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 


การทวิตข้อความปริศนาของ “นายกิตติ สิงหาปัด” ผู้ดำเนินรายการ “ข่าว 3 มิติ” ผ่าน @Kitti3Miti เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ยืนยันว่ารายการ “ข่าว 3 มิติ” แม้จะเป็นรายการข่าวที่มีโฆษณาแพงที่สุดในช่อง 3 และโฆษณาเต็มทั้งปี แต่ไม่เคยรับ “โฆษณาแฝง” ในลักษณะใดๆ

ได้นำไปสู่ข้อสงสัย ว่าจะเกี่ยวกับการที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจพบและเปิดเผยว่า บริษัท ฮ็อทนิวส์ จำกัด ที่นายกิตติเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีรายได้รวม 75 ล้านบาท น้อยกว่าบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด และบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของ “นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา” พิธีกรชื่อดังที่กำลังเป็นบุคคลข่าว ที่มีรายได้รวม 2,600 ล้านบาท หรือราว 35 เท่าหรือไม่?

แต่ไม่ว่าจะมาจากเหตุผลอะไร สิ่งที่นายกิตติทวิตได้ให้ “เงื่อนงำ (hint)” บางอย่าง โดยเฉพาะ keyword คำว่า “โฆษณาแฝง” !

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปตามต่อว่า hint ดังกล่าว นำเราไปสู่อะไร มาหานิยามคำว่า “โฆษณาแฝง” กันก่อนว่ามันคืออะไร แล้วโทษของมันคืออะไร

ก่อนหน้านี้ "โครงการศึกษาเฝ้าระวังสื่อและพัฒนาการเรียนรู้เท่าทันสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม" หรือ Media Monitor ได้เคยทำวิจัย พร้อมนิยาม คำว่า “โฆษณาแฝง” ว่า หมายถึงโฆษณาที่แฝงไปในเนื้อหาของรายการ ซึ่งต่างจาก “โฆษณาตรง” ที่กฎหมายได้กำหนดระยะเวลาว่า ภายใน 1 ชั่วโมง ในสถานีโทรทัศน์แต่ละช่อง จะสามารถโฆษณาตรงได้กี่นาที (อาทิ ช่อง 3 ช่อง 7 และโมเดิร์นไนน์ ไม่เกินชั่วโมงละ 10 นาที)

ทั้งนี้ โฆษณาแฝง มักจะมาใน 5 รูปแบบ

(1) โฆษณาแฝงแบบสปอตสั้น หรือวีทีอาร์ โดยใช้ภาพโฆษณาสินค้า 4-7 วินาที ในช่วงเข้าเนื้อหารายการ

(2) โฆษณาแฝงวัตถุ โดยตั้งใจจัดฉากให้เห็นสินค้าชัดเจน อาทิเช่น ฉากร้านขายสินค้าในละครซิทคอม การวางแก้วกาแฟ และโน้ตบุ๊ค ในรายการเล่าข่าว

(3) โฆษณาแฝงกับตัวบุคคล

(4) การโฆษณาแฝงภาพกราฟฟิก

และ (5) โฆษณาแฝงกับเนื้อหารายการ

สำหรับโทษของ "โฆษณาแฝง" นอกจากเป็นการหาผลประโยชน์โดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย “นายธาม เชื้อสถาปนศิริ” อดีตนักวิชาการประจำ Media Monitor ยังเคยเขียนเอาไว้ว่า “โฆษณาแฝงได้เข้ามารุกล้ำสิทธิส่วนตัวของผู้บริโภคที่จะใช้รีโมท คอนโทรล ในมือกดเปลี่ยนช่องรายการโทรทัศน์แต่ก็ยังไม่วายต้องพบเจอโฆษณาแฝงในรายการ โทรทัศน์ปัจจุบันที่มีมากในปริมาณ และรูปแบบวิธีการที่แยบยล”

ก่อนหน้าที่จะมีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เคยพยายามเสนอ "ร่างประกาศ สคบ.เรื่อง แนวทางการปรากฏของสินค้าในรายการทางสถานีวิทยุโทรทัศน์” เพื่อขึ้นมาควบคุมโฆษณาตามรายการโทรทัศน์ต่างๆ เนื่องจาก การโฆษณาแฝงนั้นผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ในมาตรา 22 และมาตรา 23 อยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีการกำหนดรายละเอียดในการปฏิบัติที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ร่าง ประกาศ สคบ.ดังกล่าว ก็ถูกโจมตีว่า แทนที่จะช่วยแก้ปัญหา “โฆษณาแฝง” กลับเป็นการรับรอง “โฆษณาแฝง” เสียเอง ดังที่นายธามตั้งข้อสังเกตไว้ดังนี้

"1.โฆษณาแฝงแบบการวางสินค้าแทรกในรายการ (product placement) ทั้งป้ายสินค้า ภาพโลโก้สินค้าและบริการในหน้าจอทีวีพลาสมาหลังฉาก ฯลฯ หรือวิธีการวางสินค้าอื่นใดสามารถทำได้ (โดยอ้างว่าต้องเป็นไปอย่างธรรมชาติ?)

2.โฆษณาแฝงแบบภาพโลโก้สินค้าที่ขึ้นตามมุมจอ และภาพโลโก้วินว์ (super logo, window logo) สามารถมีได้ในเนื้อหารายการ ครั้งละ 5 วินาที มีได้ 12 ชื่อสินค้า หากรายการยาว 1 ชั่วโมง จะสามารถมีภาพโฆษณาโลโก้นี้แทรกในเนื้อหาได้ 1 นาที

3.โฆษณาแฝงแบบโฆษณาสปอตสั้น (VTR) สามารถมีได้ในตอนต้น หรือเข้าออกเบรกเนื้อหารายการ เช่น ช่วงนี้ สนับสนุนโดย... สินค้า A (5 วินาที), สินค้า B(5 วินาที)…., หากรายการยาว 1 ชั่วโมง จะสามารถมีโฆษณาสปอตสั้นแฝงในเนื้อหารายการอีก 1 นาที

4.โฆษณาแฝงในเนื้อหารายการแบบสกู๊ป (scoop) หรือการสร้างภาพลักษณ์องค์กร (Corporate Social Responsibilities) จะสามารถมีได้อีก 1 ชิ้นเป็นอย่างน้อย ใน 1 รายการ

เรียกว่าโฆษณาแฝงกันได้เต็มๆ มากกว่าเดิมกันทีเดียว"

ท้ายสุด ร่างประกาศ สคบ.ดังกล่าว จึงไม่ผ่านความเห็นชอบจากนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สมัยดำรงตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเมื่อมี กสทช.ขึ้นมา สคบ.จึงต้องส่งเรื่องให้ กสทช.ไปดำเนินการต่อตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป

แต่ถึงบัดนี้ กสทช.ยังไม่ออกมาตรการใดๆ เกี่ยวกับการควบคุม “โฆษณาแฝง” ในรายการโทรทัศน์มาบังคับใช้เลย

จนกลายเป็น “นาทีทอง” ในการหารายได้เป็นกอบเป็นกำ ของผู้ประกอบหัวหมอตามสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ !

กลับมาที่ข้อความใน @Kitti3Miti อยากให้คนไทยทุกคนในฐานะ “ผู้บริโภค” ลองจับดูเพื่อเปรียบเทียบด้วยตัวเองก็ได้ว่า ระหว่างรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” กับรายการ “ข่าว 3 มิติ” ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เหมือนๆ กัน เพียงแต่คนละช่วงเวลา

มี "ความเหมือน-ความต่าง" กันอย่างไร

อย่าลืมว่า keyword ของเรื่องนี้ อยู่ตรงที่คำว่า "โฆษณาแฝง"

แล้วเราอาจจะได้รู้ว่า เหตุใด นายสรยุทธถึง “รวยห่างชั้น” จากนายกิตติ ถึง 35 เท่า !!!

ที่มา สำนักข่าวอิศรา
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
Guest
อีกอย่าง
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 13 ต.ค. 12, 09:18 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

การส่ง SMS อีกอย่างหนึ่ง ที่เป็นกลยุทธ์ของการโฆษณา ที่ทำรายได้ แต่ก็มีส่วนดี ในกรณีของข่าวสาร ที่ทั่วทุกพื้นที่จะส่งเข้ามาเพื่อแบ่งปันข่าวสารจากพื้นที่จริง ๆ แต่ราคาในส่ง บางทีสูง ซึ่งรายได้ส่วนนี้ไม่รู้จัดการกันอย่างไร มีการจัดเก็บภาษีรายได้ส่วนนี้หรือไม่

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
พี่ชาติ
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 13 ต.ค. 12, 09:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผมกลับมองว่า"โฆษณาแฝง"เป็นการคิดค้นวิธีของนักการตลาดที่จะทำให้ผู้บริโภค ไม่ได้รู้สึกถึงการโฆษณาจนเกินไป และที่สำคัญสิทธิในการรับรู้ก็ยังเป็นของประชาชน เมื่อคุณรู้สึกว่าถูกยัดเยียดก็สามารถกดรีโมทเปลี่ยนไปดูช่องอื่นๆได้ตามอัธยาศัยของตน ไม่มีใครเสียหายอะไรเลยครับ แต่มันทำให้คนทำรายการมีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ต้องอดอยากปากแห้งเหมือนคนทำข่าวสมัยก่อนๆ จะได้มีแรงใจที่จะคิดหรือทำในสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
หนุมาร
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 13 ต.ค. 12, 10:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

โฆษณาแฝง ตรงกับรายการของ เอ็กแซ็กทั้งนั้นเลย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 13 ต.ค. 12, 13:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้าไม่อคติเกินไป 1.ร่างประกาศ สคบ.ดังกล่าว ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเมื่อมี กสทช.ขึ้นมา สคบ.จึงต้องส่งเรื่องให้ กสทช.ไปดำเนินการต่อตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป
2. ถึงบัดนี้ กสทช.ยังไม่ออกมาตรการใดๆ เกี่ยวกับการควบคุม “โฆษณาแฝง” ในรายการโทรทัศน์มาบังคับใช้เลย 3. ผู้บริโภค ไม่ได้รู้สึกถึงการโฆษณาจนเกินไป และที่สำคัญสิทธิในการรับรู้ก็ยังเป็นของประชาชน เมื่อคุณรู้สึกว่าถูกยัดเยียดก็สามารถกดรีโมทเปลี่ยนไปดูช่องอื่นๆได้ตามอัธยาศัยของตน 4. การดำเนินรายการ-การจัดเวทีเป็นเรื่องของเอกลักษณ์รายการแต่ละรายการที่ไม่เหมือนกัน นิเช่นนั้นคงต้องจัด ณ.เวที.และไมค์ตัวเดียวกันหรือ 5.คงไม่สามารถเปรียบเทียบรายได้ของรายการหนึ่งกับรายการอื่นได้เพราะเหตุผลข้อ4เป็นหลัก 6.แม้กระทั่งข่าวในพระราชสำนักที่เนื้อข่าวเป็นฉบับเดียวกันแต่การจัดเวที-พิธิกร ยังต่างกันไปในแต่ละช่อง 7.ในทางกฎหมายอาญา 7.1ต้องสัญนิฐานไว้ก่อนเสมอว่าผู้ต้องสงสัยเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน 7.2 การลงโทษผู้หนึ่งผู้ใดต้องลงโทษตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้น ..........
..ความคิดเห็นนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว สุดท้ายต้องใช้คำตัดสินของศาลยุติธรรมเป็นหลักครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ดิน
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 14 ต.ค. 12, 23:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อย่างว่าหละครับก็คุณกิตติแกทำข่าวแบบซีเรียสเกินไปหรือเปล่าโฆษณาเลยไม่ค่อยมีเพราะเรตติ้งไม่ดี เวลาแกทำข่าวอะไรซักอย่างแกก็จะเกาะติดกับข่าวนั้นนานนนนนนนนนนนนนนนมากแบบมันน่าเบื่อน่ะคำว่าข่าว NEWSน่าจะหมายถึงสิ่งใหม่ๆไม่ใช่ตามแต่เรื่องเดิมๆน่าเบื่อ เอาเรื่องใหม่บ้างเถอะนะ คุณการให้ข้อมูลแบบนี้มันเหมือนกับพวกนักการเมืองที่โจมตีกันไปมา เนี่ยคอยดูคุณสรยุทอยู่นะว่าจะ มาแก้ข่าวอะไรหรือเปล่าถ้าเงียบๆไปเราว่าดีกว่าออกมาตอบโต้นะเพราะถ้าออกมาตอบโต้ก็จะเหมือนกับพวกนักการเมืองที่เถียงกันไม่รู้จบ
อยากฝากไว้เรื่องนึงว่าโฆษณาที่ติดตามข้างรถเมล์ รถปอ.น่ะเอาทรัพย์สินของสาธารณะมาใช้ประโยชย์เอาเปรียบเราหรือเปล่าแล้วติดตามกระจกนะบดบังทัศนียภาพด้วยหรือเปล่า เวลาเราขึ้นรถมองไม่ค่อยเห็นเลยว่าถึงไหนแล้ว เลยป้ายหรือเปล่ายิ่งฝนตกด้วยนะมองไม่เห็นเลย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม