เรื่องจริงของชีวิตพยาบาลลูกจ้าง ในกระทรวงสาธารณสุข หลังจากที่มีการเรียกร้องการบรรจุเป็นข้าราชการของเหล่าพยาบาลเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเกิดกระแสต่างมากมาย ทั้งด้านบวกและลบ เราในฐานะพยาบาลวิชีพลูกจ้างชั่วคราวคนหนึ่ง อยากจะตีแผ่ความจริงอีกด้านหนึ่งที่เราพบเจอ มาตลอดเกือบสี่ปี ในอาชีพนี้ ในกระทรวงนี้ ยินดีน้อมรับทุกคำวิจารณ์ ทุกความเห็นค่ะ กล้าเขียนก็ต้องกล้ารับเนอะ
เริ่มตั้งแต่ตอนเรียนนะค่ะ เราจบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งค่ะ ตอนที่จบมีหน่วย
งานทั้งราชการ เอกชนต่าง ๆ รวมถึงรัฐวิสาหกิจด้วย มาตั้งโต๊ะรับสมัครกันถึงที่เลยค่ะ และแน่นอนว่าเรานักศึกษาจบใหม่ไฟแรงค่ะต้องการทำหน้าที่ให้กับโรงพยาบาลของรัฐ แม้ว่าเอกชนจะทุ่มเงินแค่ไหนเราไม่สนค่ะ ตอนนั้นที่เอกชนให้ค่าเซ็นสัญญาผูกมัดกับเค้าสองปี ได้หนึ่งแสนค่ะ
เมื่อสี่ปีที่แล้วนะค่ะ กฟผ ก็มี แน่นอนว่ารัฐวิสาหกิจเงินดี โบนัสเยอะ แต่ตอนนั้นเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่
เรารู้สึกว่าการเป็นพยาบาลดูแลเจ้าหน้าที่เจ็บป่วยเล็กน้อยเหมือนอยู่ในห้องพยาบาลให้กับการไฟฟ้า มันจะไม่ค่อยได้ใช้ความรู้ความสามารถเท่าไรหนัก เราอยากช่วยเหลือคนที่เค้าเจ็บป่วยจริง ๆ เราอยากมีประสบการณ์
เรามุ่งหน้ากลับบ้านเกิดเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ในภาคอีสานติดชายแดน เรารับตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ลูกจ้างชั่วคราว เงินเดือนเริ่มต้นนะค่ะ 12,500 เงิน พตส(ประมาณเงินค่าใบประกอบวิชาชีพอ่ะค่ะ).1000 เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย 1200 นอกเนือจากนี้ก็ OT มากน้อยกันไปในแต่ละเดือน ค่าจ้างสำหรับโอที ก็ 8 ชั่วโมง 600 บาท ในช่วงปีแรกทำงานด้วยความสุขมาผม้สึกว่า นี้ละคือคุณค่าของชีวิตที่เราเกิดมาแล้วได้ช่วยเหลืออีกหลายชีวิตให้หายจากความเจ็บป่วย
ขอเล่าบรรยากาศการทำงานนิดหนึ่งนะค่ะว่า ที่ ๆ เราเรียนมาโรงพยาบาลมหาลัย ที่มีความพร้อมทุกอย่าง มีงบอุดหนุนไม่อั้น แพทย์ยั้วเยี้ยเต็มโรงพยาบาล กับความเป็นจริงของโรงพยาบาลชนบท ตามอำเภอ
1.โรงพยาบาลตามชนบทแพทย์ที่มีคือแพทย์จบใหม่ใช้ทุนกันสองปี ครบสองปีก็ไปเรียนต่อ ยังขาดประสบการณ์ และบางส่วนมักลองภูมิตัวเองด้วยการเก็บคนไข้อาการแย่ ๆ ลองรักษาเอง ไม่ยอมส่งต่อยังโรงพยาบาลจังหวัด ที่เสียชีวิตไปก็มี เราพยาบาลคนที่เฝ้าคนไข้ บอกตรง ๆ ใจจะขาด บางครั้งต้องทะเลาะกับแพทย์เรื่องนี้อยู่บ่อย ๆ บางเคสช้าเกินไป ส่งไปก็เสียชีวิต
2.แพทย์ในโรงพยาบาลมีสองถึงสามคน แพทย์อยู่เวรตามยาก ไม่เหมือนตาม โรงพยาบาลใหญ่ที่มีความพร้อม ความสบายใจในการทำงานน้อยนะค่ะ อย่าง รพ.เราพอหมดเวลาราชการคนที่ตรวจคนไข้ที่ห้องฉุกเฉินคือพยาบาลค่ะ แพทย์เวรนอนอยู่บ้าน จะตามแพทย์มาเป็นรายเคสที่คิดว่าเกินความสามารถของเราสั่งยาได้ หรือมีเคสฉุกเฉินต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ยิ่งเวรดึกคนไข้อาการแย่ พยาบาลเฝ้ารายงานอาการ ก็ได้เพียงคำสั่งการรักษาทางโทรศัพท์ น้อยมากที่จะขึ้นมาดูคนไข้เอง
3.ต้องทำงานควบ 16 ชั่วโมงที่สำคัญ มีการจัดเวร แบบควบเวลา 24.00 – 8.00 น. อันนี้ทรมาณมาก
4.การทำงานต้องขึ้นเวรโอทีแบบอุตลุตเพราะพยาบาลขาดค่ะ เรียกว่าเดือนหนึ่งมี 30วัน แต่เราทำงานกัน 33, 34 วันค่ะ เพราะ ต้องทำโอถึงไม่อยากทำก้อต้องทำค่ะ ไม่งั้นก็ไม่มีใครดูแลคนไข้ บางครั้งเพื่อนร่วมงานป่วย ก็ต้องทำเพิ่มอีก
5.วัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันตัวที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ปฏิบัติงานไม่มี อ้างว่าไม่มีเงินซื้อ ยกตัวอย่างนะค่ะ อย่าง รพ.มหาลัยที่เราเรียนฝึกงาน หรือโรงพยาบาลเอกชนจะมีกล่องทิ้งเข็มโดยกล่องจะมีที่สอดเข็มเข้าไปแล้วพอเราดึงเข็มก็จะหลุดออกจาก syring โดยที่เราไม่ต้องใช้มือเราดึง เพิ่มความปลอดภัยลดอุบัติการณ์เข็มทิ่มตำเจ้าที่ได้ โรงพยาบาลเล็ก ๆ จน ๆ อย่างเราไม่มีค่ะต้องเสี่ยงกับการดึงเข็มออกจาก syring ด้วยตัวเอง เพื่อนร่วมงานเราโดนเข็มตำไป สองสามราย เครียดนะค่ะ เกิดคนไข้เป็น HIV มันไม่คุ้มเลยกับชีวิตเรา
ก่อนจะพูดถึงปัญหาเรื่องการบรรจุ และค่าตอบแทน ขอเล่าถึงภาระงานก่อนแล้วกันค่ะมีหลายครั้งที่ได้ยินหลายคนพูดว่างานเราสบาย ได้เงินเยอะ วัน ๆ ไม่เห็นทำไรเลย ก็เลยอยากจะเล่าให้พอนึกภาพออก
แล้วกันค่ะ ว่าเราจะกระจายอยู่ทุกจุดทุกแผนกของ โรงพยาบาลเลยก้อว่าได้
1.แผนกห้องเฉินนะค่ะ เรามีหน้าที่ ประเมินวัดสัญญาญชีพ ล้างแผล ในที่ที่ไม่มีแพทย์อยู่ตลอดเราต้องเย็บแผล ผ่าฝี เองด้วย บางแห่งต้องตรวจรักษาเองด้วยในช่วงเวลา 16.00-8.00 น แต่แพทย์เวรก็นอนได้ตังค์ค่าเวรที่บ้านนะค่ะ
2.ห้องคลอด พยาบาลทำหน้าที่ทำคลอดในเคสปกติทุกเคส สังเกตอาการตั้งแต่คนไข้มาหาเรา ประเมินความก้าวหน้าในการคลอด ต้องรู้ว่าอะไรคือความผิดปกติ ที่อันตราย และรายงานแพทย์ตามแพทย์มาดูคนไข้ให้ได้เมื่อเกิดความผิดปกติ
3.ตึกผู้ป่วยใน อันนี้ดูแลคนไข้ที่นอนโรงพยาบาล หลัก ๆ ก็ ทำตามแผนการรักษา ประเมินความผิดปกติที่เกิดกับคนไข้ แผนการรักษาก็ เช่นการเจาะเลือด ส่งเลือดตรวจ ให้เลือด ฉีดยา จัดแจกยา ตรวจสอบความถูกต้องของยาที่ห้องยาจัดมา ดูแลให้น้ำเกลือ ทำแผล วัดสัญญาณชีพ เหล่านี้
นอกจากนี้งานเอกสาร เก็บสถิติคนไข้ ฉีดวัคซีน ยาคุมกำเนิด ฝากครรภ์ คัดกรองคนไข้ ซักประวัติ ก็งานเราทั้งนั้น
(มีต่อ)