เรื่องล่าสุดของหมวด
นักท่องเที่ยวเป็นงง! เมื่อเจอป้ายบอกทางภาษาอังกฤษ "วัดจันทร์ตะวันออก"
เหมืองหินเก่าถ้ำทองหลาง มุมอันซีนเมืองพังงา ได้ฟีลเหมือนเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์
น้ำตกหมอแปง พิกัดเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ปาย แม่ฮ่องสอน
นายกรัฐมนตรี ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรก หลังไทยประกาศฟรีวีซ่าให้จีนและคาซัคสถาน
อัปเดตภาพสกายวอล์ค หลวงพ่ออู่ทอง พระพุทธรูปแกะสลักจากหน้าผาหินใหญ่สุดในไทย!
น้ำตกถ้ำพระ สไลเดอร์ธรรมชาติ กับความชุ่มฉ่ำของสายน้ำในช่วงหน้าฝน
ประกาศผล 50 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก 2023 โรงแรมไทยติดลิสต์มาถึง 4 อันดับ!
ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา เช็กอินเที่ยวพัทยา กับชุดบิกินีที่ทำเอาแฟนคลับซูมกันตาแตก!
ขาวทะลุจอ! รวมภาพปันปัน สุทัตตา กับบิกินีตัวจิ๋ว เที่ยวเกาะยาวน้อย
จัดโปรเพื่อคนไทย! "อนันตรา เกาะยาวใหญ่" รีสอร์ทหรูใหม่ล่าสุดบนเกาะยาวใหญ่ เริ่มต้นแค่หลักพัน
13 ที่พักกาญจนบุรี 2566 ติดริมแม่น้ำ พร้อมข้อมูลการเดินทางแบบละเอียด
Hotel Tide Phuket กำแบงค์พัน 2 ใบ ไปพักผ่อนสุดฟินริมทะเลแบบสบายกระเป๋า
“อี_กา กินเช้า” มื้อเช้าจากความทรงจำที่ อี-กา สาขาใหม่ ซอยสาทร 12
ขนมตดหมา อาหารถิ่นเมืองบุรีรัมย์ กลิ่นหอมเย้ายวนใจ!
BEARHOUSE ร้านขนมและชานม “ไข่มุกโมจิ” เจ้าแรกของเมืองไทย บุกไอคอนสยาม
Let’s be beautiful @Plantiful คาเฟ่อาหาร Plant-Based ที่คัดสรรทุกเมนูเพื่อสายรักสุขภาพ
CRAZE MAMA ร้านอาหารไทย ที่ได้ใจคนรักมาม่าไปเต็มๆ
รีวิว Teppan France Kanda จะเป็นอย่างไรเมื่อเชฟกระทะเหล็กมาทำอาหารให้กินตรงหน้า!
อัปเดต 33 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า 2023 คนไทยเที่ยวได้เลย ไม่ต้องรอ!
บ้านพี่เมืองน้อง! รัฐบาลเตรียมเจรจาให้คนไทย ฟรีวีซ่าเข้าเยอรมนี
เรื่องต้องรู้ก่อนไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง
เที่ยวเวียดนาม เมืองไหนดี รวม 12 เมืองน่าเที่ยว เหนือจรดใต้
5 อันดับ เรือผีสิง ที่เฮี้ยนสุดในประวัติศาสตร์
ทำความรู้จัก Lake Como สถานที่จัดงานแต่ง หมาก-คิมเบอร์ลี่ ที่อิตาลี
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง ชาว sanook และผู้ท่องอินเตอร์ทุกคน วันนี้เป็นครั้งแรกครับ ที่มาเขียนรีวิวแบ่งปันประสบการณ์ในกระทู้ Sanook อยากแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางของตัวเอง ที่ได้เดินทางไปต่างประเทศครับ โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไปต่างประเทศด้วย โดยได้เดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านเรานี้เองครับ ....ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เดินทางไปคนเดียวครับ เพราะจองตั๋วเครื่องบินไว้ตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ อีกอย่างเพื่อนๆ ก็มีแต่ทำงานกันหมดแล้ว ไม่มีใครว่าง ก็เลยจัดทริปแบกเป้ Backpack เที่ยวหาประสบการณ์เดินทางด้วยตนเองดีทีสุดและที่ไปสิงคโปร์อยากรู้ด้วย เอ้..ทำไมบ้านเมืองเค้าถึงเจริญกว่าบ้านเรามากนัก อยากไปเห็นกับตา อยากไปเรียนรู้สัมผัสวิุถีชีิวิต และสถาปัตยกรรมบ้านเมืองเค้าครับ การแบกเป้ ลุยเดี่ยวเที่ยวด้วยตัวเองของผมครั้งนี้ มีสมุดโน๊ตปากกาเป็นเพื่อนเดินทางเพราะต้องเป็นคนชอบขีดเขียนครับ พร้อมกับกล้องถ่ายรูปเก่าๆ หนึ่งอัน และกระเป๋าเป้ขนาดกลาง พอยัดบนเครื่องบินได้ครับ โดยแผนการเดินทางเที่ยวบันทึกการเดินทางของผมใช้เวลาไป 3 วัน 2 คืน ครับ เดินทางตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.- 6 ก.ค.55 ครับ การเที่ยวครั้งนี้จะพยายามบันทึกและหาความรู้ให้ได้มากที่สุด ว่าทำเรื่องราวจะไปอย่างไรไปติดตามกันครับ************************************วัีนที่ 4 ก.ค.55 ผมตื่นตั้งแต่ตี 4 ครึ่งเลยครับ รีบอาบน้ำ ตรวจสอบสัมภาระและตั๋วเดินทางให้เรียบร้อย กว่าจะทำภาระกิจเสร็จก็เกือบตี 5 ครึ่งแล้วครับ ผมรีบออกจากกรุงเทพ ตอนแรกว่าจะนั่งรถไฟฟ้า ยังไม่เปิดเลย และคงไม่ทัน เลยยอมเสียค่า taxi จากสุขุมวิทไปสุวรรณภูมิเกือบ 200 บาทครับ ไปถึงสนามบินก็เกือบ 6.30 พอดี ผมรีบวิ่งเข้าไป check in ให้ทัน ก่อนเครืองบินออก วันนั้น ผมรีบมากๆครับ แต่ก็เกือบตกเครืองครับ เพราะมาคนสุดท้ายพอดีครับ เครื่องบินออกจากสุวรรณภูมิเวลา 7.05 น.***************************************เตรียมขึ้นเครืองบินครับ
ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเดินทางลุยเดียวของผมครั้งนี้คือ สมุดโน๊ตและปากกาที่ต้องบันทึกว่า่แต่ละวัีน เราไปเที่ยวที่ใหนบ้าง ได้ความรู้อะไรบ้างครับ ตอนอยู่บนเครื่องบินผมก็นั่งบันทึกเริ่มต้นการเดินทางเลยครับ
ผมนั่งบนเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถือสนามบิน Changi แล้วครับ โดยเวลาบ้านเค้าเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมงครับ
ในที่สุดก็ถึงสนามบิืน changi ครับ เวลา 10.05 นาที โดยเมื่อไปถึงแล้วก็ต้องผ่าน ด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อนนะครับ ถ้าจะไปประเทศเค้า เตรียมหนังสือเดินทาง และตรอกแบบฟอร์มเข้าเมืองให้เรียบร้อยก่อนครับ
และเมือมาถึงแล้วผมก็รีบเดินไป หยิบโบชัวร์ข้อมูลแผนที่ของประเทศสิงคโปร์ อยู่ใกล้ด่านตรวจคนเมืองครับ ถ้าใครมาเที่ยวแบกเป้ แบบผมก็อยากลืมหยิบแผนที่การเดินทางก่อนออกจากสนามบินนะครับ ไม่งั้นนเดี่ยวจะหลงทางเอาได้ครับ
เมื่อได้หยิบแผนที่และ้ข้อมูล แล้ว วันนั้นมาถึงสิงคโปร์ครั้งแรกรู้สึกว่า ไม่รุ้จะไปทางใหนเริ่มต้นยังไง พอดีมีจุดให้ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวในสิงคโปร์เลยเค้าไปถามเจ้าหน้าที่ว่า่่จะเข้าเมืองไปได้อย่างไร วันนั้นเจ้าหน้าที่ในสนามบินก็ให้ข้อมูลดีมากครับ เดินไปที่ Singapore Visitor Center
วันนั้นผมมีแผนการว่าจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปที่อาคาร Terminal 2 เพื่อไปต่อสถานีรถไฟฟ้าที่นั้นครับ โดยให้เดินไปตามลูกค้าศรทีี่ติดไว้ครับ
และแล้วผมก็นั่งรถไฟฟ้าจาก Terminal 1 มาถึง Terminal 2 เพื่อนั่งรถไฟฟ้าเข้าตัวเมืองสิงคโปร์ครับ แน่นอนครับว่า มาถึงแล้ว ก็ต้องซื้อตั๋ว วันนั้นเลยซื่้อเป็นบัตร Ez Link ไว้เลยครับ จ่ายไป $12 จะเป็นเงินค่าบัตร $5 และค่าโดยสารอยู่ในบัตรอีก $7 ครับ
โดยถ้าหากจะเติมเงิน ในตู้บอกว่าเติมได้ครั้งละ $10 ครับ สำหรับ บัตร Ez link แลกคืนไม่ได้นะครับ ลืมบอกไปครับ ว่าบัตรนี้สามารถใช้ทั้งบนรถเมล์ รถไฟฟ้า และใช้ซื้อของใน 7Eleven ได้ด้วย โอ้..แจ่มมากครับ
ผมนั่งรถไฟฟ้าจากสนามบิน Changi มาแล้วก็มาเปลี่ยนที่สถานี Tanar marah เพื่อนั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าไปในเมืองครับ เพื่อไปยังที่พักครับ (รถไฟฟ้าในสิงคโปร์มี 4 สายครับ) หากใครไปต้องดูแผนที่ให้ดีนะครับ แต่ละสถานีที่เราจะไปก็บอกไว้อยู่แล้วครับ
ผมใช้เวลานั่งรถไฟฟ้่า MRT ที่สิงคโปร์ไม่นานก็ต้องมาเปลี่ยนรถไฟฟ้าอีกครั้งที่สถานี outram park เพือเปลี่ยนจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพื่อไปสายสีม่วงครับ
แผนที่รถไฟฟ้าในสิงคโปร์ครับ มี 4 สายครับ วันนั้นผมจองที่พักไว้ที่โรงแรม Backpack ไว้แถว Clarky Quay เลยต้องไปเปลี่ยนที่สถานี outram park ครับ
ผมเดินออกจากรถไฟฟ้ามาเปลี่ยนที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ outram park เพื่อเดินทางไปที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง Clarky Quay ตามภาพด่านล่างครับ
ในที่สุดก็ถึงสถานี Clarky Quay ตามแผนที่ ของที่พักครับ ผมเดินออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็พอว่า บ้านเมืองเค้าดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมากครับ รถไม่ติดเลยครับ
ผมเดินตรงมาเรื่อย เพราะที่พักอยู่ีในซอย Hongkong Stree ในที่สุดก็เจอแล้วครับ โรงแรมที่พักถึงสักทีครับ โรงแรมแนว Backpack ราคาถูกที่จองไว้ทางอินเตอร์เน็ต เอาไว้นอนอย่างเดียว ไม่มีอะไรมาก แต่ปีถึงก็อึ้งครับ เพราะเป็น backpack hotel ที่สะอาด ถือว่าใช้ได้เลยครับ
เมื่อถึงที่พักผมก็ check in ที่พักให้เรียบร้อยครับ ถึงเตียงนอนเป็นแบบ Share bath room ครับ ห้องพักถือว่าดีนะครับ สำหรับผม ฟรี WiFi ด้วยครับ แต่เสียอย่างไม่มีผ้าขนหนู สบู่ให้ ต้องเตรียมไปเองนะครับ หากใครไป วันนั้นมาถึงผมก็ขอนอนเอาแรงก่อน พร้อมบันทึกการเดินทางใส่สมุดโน๊ตของผมก่อน จะไปเที่ยวช่วงบ่ายต่อครับ
หลังจากได้นอนพักผ่อนไปสักเกือบ 1ชั่วโมง ชักเริ่มหิว เลยเข้าไปร้าน เ่จ็ดสิบเอ็ด (7Eleven) หาอะไรทานก่อนครับ ถือว่าเป็นอาหารเที่ยงละกัน ขอบอกเลยครับว่า สินค้าแต่ละชนิดหากคูณเป็นเงินไทย ราคาแพงเหมือนกันครับ แซนวิชก็ 50 แล้วครับ ยิ่งน้ำขวดเล็กปาไปตั้ง $2.7 ประมาณ 50 กว่าบาทเลย
ทานอาหารมื้อเที่ยงเสร็จไปแล้ว ช่วงบ่ายผมก็ขอเดิน Chil out ชมเมืองใกล้ๆ ที่พัก และเดินทางไป Merlion Park ครับ โดยผมเดินตั้งแต่ River Walk ไปเรื่อย ๆ ครับ
เดินมาเรื่อยๆ สักพักก็มาเจอคุณลุงขายไอติม อยากทานเลยจัดไป $1 เป็นไอติมแท่ง ต้องทานกับเวเฟอร์ หรือกับขนมปังก็ได้แล้วแต่เลือก อร่อยมากครับ
ในที่สุดก็ถือแล้วครับ Merlion Park เมื่อไปถึงก็ต้องตกใจ เพราะคุณเจ้าสิงโตทะเลสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ มันกำลังถูกปรับปรุงซ่อมแซมอยู่ ว้า...เสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะยังมีตัวลูกอยู่ครับ
ตัวแม่สิงโตทะเลถูกปรับปรุง ก็ยังมีแต่ลูกให้ดู และถ่ายรูปกันครับ ตัวลูกได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากมายเลยครับตอนที่ผมไปเที่ยว
ผมนั่งพักอยู่ตรง merlion สักพัก ก่อนจะเดินไปที Marina Bay Sands ครับ จุดนี้ก็น่าสนใจครับ ผมเดินข้ามสะพานมาก็จะเป็น Esplanade และเดินมาอีกหน่อยก็เป็น marina bay มี science museum ครับ
นอกจากนี้ผมยังเดินทางไปเที่ยวและบันทึีกการเดินทางกับสถานที่ต่างที่พบเห็นมากมายครับ ซึ่งเดินจากที่พักไปรอบๆ สถานที่ท่องเที่ยวได้ไม่ไกลครับ บ้้านเมืองเค้าดูเป็นระเบียบมากครับ
วันทีี่ 5 ก.ค.55 วันที่ 2 ของการเดินทางแล้วครับเดินทางไปเกาะเซนโตซ่า และช่วงเย็นไปช็อปปิ้งที่ถนน orchard road
วันที่ 6 ก.ค.55 วันสุดท้่ายแล้วครับ แต่จองเที่ยวบินไว้กลับตอน 2 ทุ่ม วันสุดท้ายแล้วครับ เป็นวันดีอีกวันเพราะได้นั่งรถเมลล์จากย่าน river walk ไปชมธรรมชาติที่สวนพฤษศาสตร์ 100 กว่าปี ของสิงคโปร์ และไปชมวิถีชีวิตของชาวสิงคโปร์ที่มีทั้งอินเดีย จีน และมุสลิม อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เพื่อนๆ ลองแวะไปเที่ยวดูนะครับ
การเที่ยวแต่ละครั้งของผมขาดไม่ได้เลยคือ สมุดโน็ตและปากกาไว้เขียนเพื่อบันทึกการเดินทาง และตลอด 3 วันที่ผ่านมา รู้สึกว่าตนเองเข้มแข็งและกล้าเผชิญโลกภายนอก และกล้าเดินทางไปต่างประเทศด้วยตัวเองครับ ได้ใช้ภาษาอังกฤษและนำมาพูดมากขึ้น สิ่งที่ได้รับมากที่สุดไปสิงคโปร์คือ... ความมีระเบียบวินัยครับ กลับมาเมืองไทยต้องทำให้ตัวเองมีวินัยมากขึ้นจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บ้านเมืองเราเจริญก้าวหน้าครับ .... วันที่ 6 ก.ค.55 เครื่องบินออกจากสนามบิน Changi เวลา 20.10 น. ถึงกรุงเทพ 21.50 น. อย่างปลอดภัยครับต้องขอขอบพระคุณเพื่อนชาว sanook ทุกคน และ ผู้ที่ท่องอินเตอร์เน็๋ตอยู่ทีี่เข้ามาชมครับ .....ครั้งหน้าหากผมไปเที่ยวใหนจะนำมา แบ่งปันบนเว็ปกระทู้นี้อีกครับ
จะไปอีกเมื่อไร ชวนไปด้วยซิ อยากไปมากกกเลยneenee2511@hotmail.co.th
ไปเที่ยวมาแล้วเหมือนกันค่ะ สะอาด สวย พอดีไปตรงกะวันชาติเค้าด้วย สนุกมาก อ๋อ ไปตั้งแต่ 2010
ขอบคุณนะค่ะการเดินทางของคุณมีประโยชน์มากค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนมากครับ ที่มาร่วมแสดงความเห็นครับ
เราเองก็จะไป 26-28 ตุลานี้ค่ะ ไปคนเดียวเหมือนกัน และก็เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไปต่างประเทศเช่นกัน เราคิดเหมือนคุณเจ้าของกระทู้เลย คือ เราเองอยากเปิดประสบการณ์ของตัวเอง อยากกล้าที่จะออกไปเผชิญโลกภายนอกด้วยตัวเอง และอยากลองเดินทางไปต่างประเทศด้วยตัวเองคนเดียว อยากรู้ว่าตัวเองจะสามารถไหม เราถึงได้ตัดสินใจไปคนเดียว ขอบคุณประสบการณ์ของคุณมากเลย "ตลอด 3 วันที่ผ่านมา รู้สึกว่าตนเองเข้มแข็งและกล้าเผชิญโลกภายนอก และกล้าเดินทางไปต่างประเทศด้วยตัวเองครับ ได้ใช้ภาษาอังกฤษและนำมาพูดมากขึ้น"
มีประโยชน์มากเลยคะ ขอบคุณคะ
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี