โรบินฮู้ด จอมโจรปล้นคนโกงแผ่นดิน ในนิทานปรัมปราอังกฤษ
มาวันนี้ ที่ไทยแลนด์ เราค้นพบ กลุ่มโจรที่ปล้นคนโกงแผ่นดินแล้ว ตามข่าวนี้ v
v
ผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ “ภาณุพงศ์” นำทีมแถลงจับแก๊งปล้นบ้าน
“ปลัดคมนาคม” พร้อมของกลางเงินสด 2.8 ล้าน สร้อยทอง อุปกรณ์งัดแงะ และเครื่องมือตัดสัญญาณโทรศัพท์ หลัง จนท.ออกตามสืบล่าตัวมาได้ 2 ราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างหลบหนี สารภาพวางแผนและดูลาดเลามานาน 1 ปี ก่อนสบโอกาส โดยได้เงินไปกว่า 200 ล้านบาท อ้างลงมือเข้าปล้นบ้านปลัด เพราะโกงมาจากทางราชการ
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนร้ายได้บุกเข้าไปปล้นบ้านของ
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่บ้านเลขที่ 77 ซ.ลาดพร้าว 64 แยก 2 โดยกลุ่มคนร้ายอาศัยช่วงจังหวะที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน บุกเข้าไปใช้เทปพันสายไฟมัดมือของ
แม่บ้าน 2 คน และเข้าไปในห้องน้ำชั้น 2 ได้เงินสดไป 5 ล้านบาท ก่อนขับรถกระบะหลบหนีไป ซึ่งคนร้ายได้ทิ้งชะแลงเหล็ก 3 อัน คัตเตอร์ 1 อัน และผ้าปิดปากไว้ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ กก.สส.บช.น.ได้รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ประกอบกับการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า รถกระบะวีโก้ 4 ประตู ขับออกจากที่เกิดเหตุมุ่งหน้าไปยังถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา และต่อมาได้มีประชาชนได้แจ้งเบาะแส ว่า พบบุคคลต้องสงสัยซึ่งมีพฤติกรรมการใช้เงินเปลี่ยนไป โดยร่ำรวยผิดปกติ เจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่าเป็น นายสิงห์ทอง จึงได้เชิญตัวมาสอบสวน ซึ่งพบพิรุธหลายอย่าง และไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินได้ จนกระทั่งยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับพรรคพวกรวม 6 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ดังกล่าวจริง โดยมี นายวีระศักดิ์ หรือ โก้ เชื่อลี อายุ 36 ปี อยู่ที่ 260 หมู่ 2 ต.แชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เป็นหัวหน้าแก๊ง นายเสาร์แก้ว นามวงศ์ อายุ 59 ปี นายพงษ์ศักดิ์ หรือ เจี๊ยบ นามวงศ์ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 238 ม.7 ต.
แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย นายสมบูรณ์ หรือ บูรณ์ ริยะเทน อายุ 40 ปี ที่อยู่ 40 ม.5 ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จ.เชียงราย และ นายคำนวณ หรือ นวน เมฆน้อย อายุ 38 ปี อยู่ที่ 449 ม.9 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกระทำผิดด้วย

พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวอีกว่า แก๊งปล้นดังกล่าวได้ร่วมวางแผนมาหลายเดือนแล้ว มีการวนมาดูบ้านที่เกิดเหตุหลายรอบ แต่ยังไม่กล้าลงมือ จนกระทั่ง นายวีระศักดิ์ ได้ติดต่อมาว่าเตรียมอุปกรณ์ในการลงมือครบถ้วนแล้ว พร้อมที่จะลงมือได้โดยมีการใช้เครื่องตัดสัญญาณ
โทรศัพท์มือถือ เครื่องสัญญาณกล้องวงจรปิด เครื่องตัดสัญญาณประตูเลื่อนหน้าบ้าน หมวกคุณโม่งไหมพรมสีดำ ถุงมือสีดำ เครื่องช็อตไฟฟ้า วิทยุสื่อสาร ชะแลงเหล็ก ในการลงมือ
โดยในวันเกิดเหตุ นายวีระศักดิ์ ได้ขับรถกระบะวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กฉ 1166 กาญจนบุรี มารับ นายสิงห์ทอง กับพวกที่เหลืออยู่ ในห้องพักของนายสิงห์ทอง จากนั้น นายวีระศักดิ์ ได้ขับรถมายังหน้าบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นได้เปิดเครื่องตัดสัญญาณทั้งหมด และให้นายสิงห์ทอง ลงไปเปิดประตูรั้ว จากนั้นเข้าไปจับแม่บ้าน 2 คน มาอยู่ในห้องครัวมัดมือแล้วพานำขึ้นไปในห้องนอน แล้วเปิดตู้เสื้อผ้ากรีดกระเป๋าเอาเงินใส่กระสอบที่เตรียมมา จากนั้นก็ขึ้นรถกระบะหลบหนีไป
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวอีกว่า วันที่ 16 พ.ย.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนัก
งานสอบสวนขอออกหมายจับคนร้ายทั้ง 6 ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ ก่อนจับกุมนายสิงห์ทอง ได้ที่ห้องพักย่านคลองตัน พร้อมของกลางเงินสด 500,000 บาท สร้อยทองหนัก 5 บาท 2 เส้น รวมมูลค่า 760,000 บาท และขยายผลจับกุมนายเสาร์แก้ว ได้ที่บ้านพัก จ. เชียงราย พร้อมของกลางเงินสด 1,050,000 บาท โดย นายเสาร์แก้ว ให้การรับสารภาพว่าได้ส่วนแบ่งจากการปล้นครั้งนี้กว่า 1 ล้านบาท จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนพร้อมของกลางส่งดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ 4 คน จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมต่อไป นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติ นายเสาร์แก้ว นามวงศ์ อายุ 59 ปี เคยมีประวัติคดีปล้นทรัพย์ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อปี 2525 และถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปี
จากการสอบสวน
นายสิงห์ทอง ให้การรับสารภาพว่า ได้วางแผนพร้อมกับดูลาดเลามานานประมาณ 1 ปี แล้ว โดยมี นายวีระศักดิ์ เป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งทราบข่าวว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีเงินสดเก็บอยู่เป็นจำนวนมาก โดยในวันเกิดเหตุได้เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่าง พร้อมทั้งเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ เข้าไปในบ้านทั้ง 5 คน ส่วน นายคำนวณ คอยดูต้นทางอยู่ข้างนอก เมื่อเข้าไปในบ้านแล้วก็ได้บุกเข้าไปขโมยเงินสดที่ใส่อยู่ในถุง และเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าภายในห้องของปลัด ซึ่งพบว่ามีเงินสดจำนวนหลายถุง ส่วนเงินภายในตู้เซฟและเงินสินสอดพวกตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด
“ก่อนลงมือได้ให้นายคำนวณ เช่าอพาร์ตเมนต์รายวันชั้นสูงสุดที่ใกล้เคียงบ้านที่เกิดเหตุคอยดูความเคลื่อนไหวของคนในบ้าน ก่อนจะตัดสินใจลงมือปล้น เบื้องต้นเงินที่พวกตนได้มาทั้งหมดกว่า 200 ล้านบาท โดยเบื้องต้น นายวีระศักดิ์ ได้ให้เงินจำนวน 15 ล้านบาท มาแบ่งกันใช้ไปก่อน ส่วนเงินสดที่เหลือ นายวีระศักดิ์ เป็นคนเก็บไว้ แล้วจะนำมาแบ่งกันภายหลัง โดยตกลงกันว่าเงินที่ได้มาทั้งหมด 50 เปอร์เซ็นต์ แบ่งให้ลูกพี่ของนายวีระศักดิ์ ซึ่งเป็นข้าราชการ ส่วน 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นของ นายวีระศักดิ์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์แบ่งพวกตนที่เหลือ
ส่วนภายในบ้านที่เกิดเหตุพบเงินสดซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าต่างๆ รวมประมาณ 700-1,000 ล้านบาท ส่วนเหตุที่ตนได้เข้าปล้นครั้งนี้ ทราบมาว่า เป็นเงินที่โกงมาจากทางราชการ ” นายสิงห์ทอง กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 4 ราย นั้น นายวีระศักดิ์ หลบหนีอยู่ที่จังหวัดนครพนม นายคำนวณ หลบหนีอยู่ที่ชายแดนประเทศลาว ส่วน นายสมบูรณ์ และ นายพงษ์ศักดิ์ หลบหนีอยู่ที่ จ.เชียงราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
http://astv.mobi/AWnddi5
^
^
แม้จะทำชั่วด้วยการปล้น แต่ให้การเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง สามารถแฉคนโกงแผ่นดินได้
ผมหวังว่า โจรแก๊งค์นี้ จะได้รับความเมตตาจากศาลไทยนะครับ และหวังว่า รัฐบาลประชาธิปไตยควรรีบๆออกพ.ร.ฎ อภัยโทษ ให้ด่วนด้วย!! 




