นับถอยหลังงานบีโอไอแฟร์ 2011 บริษัทชั้นนำก่อสร้างพาวิลเลียนแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมมั่นใจ บีโอไอแฟร์ 2011 สร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการก้าวไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามนโยบายของรัฐบาล ด้านบริษัทชั้นนำเริ่มเผยทีเด็ด สุดยอดเทคโนโลยี โดย 3 ค่ายใหญ่ ดั๊บเบิ้ลเอ จีเอ็ม และโตชิบา เตรียมสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ร่วมชมด้วยการจัดแสดงสุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านไทยแลนด์ พาวิลเลียน และบีโอไอ พาวิลเลียน ไม่ยอมน้อยหน้า โชว์หุ่นยนต์ทศกัณฐ์ 10 หน้า 10 มือ โรงภาพยนตร์ 4 มิติ และการประชันดนตรีไทยร่วมสมัยระหว่างขุนอินและแขนกล
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยระหว่างเป็นประธานงานแถลงข่าว ไฮไลท์ในนิทรรศการ บีโอไอแฟร์ 2011 “โลกสดใส ไทยยั่งยืน” หรือ Going Green for the Future ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 25 พฤศจิกายนนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า การที่งานบีโอไอแฟร์ 2011 จะมุ่งไปสู่การเป็น Low Carbon Fair งานแรกในประเทศไทย หรือนิทรรศการที่สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สภาพแวดล้อมนั้น จะสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการก้าวไปสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ หรือ Low Carbon Society ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายภาคอุตสาหกรรมของรัฐบาลปัจจุบัน ที่มุ่งเน้นพัฒนาภาคอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่ร่วมกับชุมชนได้
นอกจากนี้ บีโอไอแฟร์ 2011 จะเป็นสิ่งยืนยันให้คนทั้งประเทศรู้ว่า การส่งเสริมให้เกิดการลงทุน ในประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมไทยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน เทคโนโลยี และตลาดส่งออก รวมทั้งการกระจายความเจริญ สู่ภูมิภาค
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการปรับระดับพื้นที่ และงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานีในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น ขณะนี้บริษัทชั้นนำ ผู้ร่วมจัดแสดงในงานได้เข้าไปก่อสร้างพาวิลเลียนเกือบทุกรายแล้ว แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะแสดงในงานบีโอไอแฟร์เป็นอย่างมาก ส่วนความคืบหน้าในส่วนอื่น อาทิ การจราจร ก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่จะสนับสนุนเรื่องพื้นที่จอดรถ และรถสาธารณะ สำหรับพาประชาชนเดินทางไปเยียมชมงาน ซึ่งจะมีการประกาศให้ประชาชนได้รับทราบต่อไป
นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวถึงการจัดแสดงศาลาประเทศไทย หรือ ไทยแลนด์ พาวิลเลียน และศาลาบีโอไอ หรือ บีโอไอ พาวิลเลียน ว่า ทั้งสองศาลาจะมีความเหมือนกันในเรื่องการเป็นอาคารนิทรรศการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะเลือกใช้วัสุดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างสิ้นเปลือง หรือ วัสดุที่เป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ ที่เกิดจากกระบวนการรีไซเคิล หรือเป็นวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่
โดยในส่วนของศาลาประเทศไทย หรือ ไทยแลนด์ พาวิลเลียน จะมุ่งนำเสนอความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของทรัพยากรในประเทศไทย ตลอดจความมีคุณภาพและศักยภาพของคนไทย รวมทั้งความสุข ความเจริญของประเทศไทย และการเกิดความศรัทธาในความเป็นคนไทย
นอกจากนี้ จะมีการจดแสดงนิทรรศการ 4 ภาค บอกเล่าเรื่องราวของประเทศไทย ตั้งแต่ ศิลปวัฒนธรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมที่โดดเด่นของแต่ละภาค พัฒนาการของอุตสาหกรรมไทยและผลิตภัณฑ์ของคนไทย
ผลิตภัณฑ์ชั้นนำ แบรนด์ไทยระดับโลก โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ “หุ่นยนต์ทศกัณฐ์ 10 หน้า 10 มือ” ที่สามารถทักทายผู้เข้าร่วมงานและจับภาพใบหน้าของผู้เข้าร่วมงานจนครบ 9 หน้าแล้วจึงกลายเป็นหน้าทศกันฐ์ครบ 9 หน้า
ขณะที่ศาลาบีโอไอ หรือบีโอไอ พาวิลเลียน จะถูกออกแบบภายใต้แนวความคิด “คลื่นเทคโนโลยีขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก เรื่องของการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนการจากอดีตถึงปัจจุบัน จากภาคการเกษตร สู่อุตสาหกรรม และเข้ามาถึงยุคแห่งเทคโนโลยี
ไฮไลท์ของศาลาบีโอไอ” คือการแสดงชุด Harmonization of Inspiration & Technology สื่อถึงการประสานกันระหว่างจินตนาการของมนุษย์และเทคโนโลยีอันทันสมัย ผ่านการแสดงของวงดนตรีไทยร่วมสมัย นำโดย ขุนอิน ในบทเพลงไทยร่วมสมัยใกล้รุ่ง ร่วมกับการเคาะจังหวะของแขนกลอัตโนมัติ และโรงภาพยนตร์ 4 มิติ ซึ่งจะพาผู้ชมสัมผัสกับประสบการณ์ เสมือนจริงกับเทคนิคพิเศษรายรอบตัว เล่าถึงอนาคตของการลงทุนอย่างชาญฉลาด เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และนวัตกรรมสีเขียว
ไฮไลท์ 3 ค่ายใหญ่ ดั๊บเบิ้ลเอ จีเอ็ม และโตชิบา
สำหรับไฮไลท์ของผู้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการกลางแจ้งริมทะเลสาบ ที่ร่วมงานแถลงข่าวสุดยอดไฮไลท์นิทรรศการบีโอไอแฟร์ 2011 ในวันที่ 19 ก.ย.54 นี้ ได้แก่ 1.บริษัท ดั๊บเบิ้ลเอ (1991) จำกัด (มหาชน) นำเสนอแนวคิด “Double A : Paper for the world” กระดาษแบรนด์ไทย เติบโตไปไกลระดับโลก ด้วยกระบวนการผลิต ที่ไม่รบกวนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีไฮไลท์คือ การ Transform ตู้บรรทุกสินค้าของดั๊บเบิ้ลเอ ให้กลายเป็นพาวิลเลียนรูปทรงใหม่ที่โดดเด่น บอกเล่าเรื่องราวที่มาของการเป็นกระดาษระดับโลกไว้อย่างครบถ้วน และหลังจากเสร็จงานแล้ว สามารถนำชิ้นกลับมาประกอบเป็นตู้บรรทุกสินค้าใหม่ได้อีกครั้ง
ด้าน บริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอแนวคิด การดำเนินกิจการตามแนวพระราชดำริ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีไฮไลท์สำคัญ คือ การเนรมิตพาวิลเลียน ให้ผู้เยี่ยมชมก้าวไปสู่โลกแห่งอนาคตที่สะท้อนถึงเทคโนโลยีความเป็นเลิศในด้านยานยนต์ร่วมรำลึก ตำนาน 100 ปีแห่งเชฟโรเลต อันเต็มเปี่ยมไปด้วยการพัฒนา
อย่างไม่หยุดยั้ง ตลอดจนความตื่นตาตื่นใจไปกับนวัตกรรมยานยนต์ของโลกอนาคตอันล้ำสมัย รวมถึงความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม
ในขณะที่ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด นำเสนอ “โตชิบาพาวิลเลี่ยน” ออกแบบในรูปลักษณ์ของ “Mobious Ring” ที่แสดงถึงความผสานกลมกลืนกันระหว่างเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ภายในโตชิบาพาวิลเลี่ยน มีส่วนการจัดแสดง 2 โซนใหญ่ คือห้องฉายภาพยนตร์ และห้องจัดแสดงผลิตภัณฑ์ นำเสนอเรื่องราวของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบาย รวดเร็วในชีวิตประจำวัน มีการจัดการระบบพลังงานไฟฟ้าสำหรับการผลิตและการใช้งานไฟฟ้าที่ชาญฉลาด ด้วยโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะสำหรับชุมชน
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ: Kith & Kin Communication and Consultant Co.,Ltd
เสาวณิต ไทรวิเศษ: 02-663-3226 ต่อ 66, 089-231-5938
นคนัน ชาญสุนทร: 02-663-3229 ต่อ 71, 087-373-7357
