หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ซึมเศร้า แบบไหน...เข้าข่ายป่วย  (อ่าน 446 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 16 ก.ย. 11, 08:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

ซึมเศร้า แบบไหน...เข้าข่ายป่วย




"โรคซึมเศร้า" อาจฟังดูเหมือนเป็นอาการป่วยทางจิตเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วมันซับซ้อนมาก ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุของโรคที่เกิดได้หลากหลาย หรือความรุนแรงที่อาจทำให้ผู้ป่วยฆ่าตัวตายได้ด้วยซ้ำ ซึ่งสิ่งที่เราต้องตระหนักก็คือ มันอาจเกิดขึ้นกับเราหรือคนใกล้ชิดโดยไม่รู้ตัว หรือมองผ่านไป เพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา

แต่เฉพาะในอเมริกา มีคนกว่า 19 ล้านคนมีอาการของโรคซึมเศร้า และเป็นไปได้ว่ามนุษย์แทบทุกคนต้องเคยมีอาการของโรคนี้ช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต แต่เราจะแยกอย่างไรกับความรู้สึกเศร้าและโรคซึมเศร้า บางคนสังเกตความรู้สึกของตัวเองและหันเข้าหาความช่วยเหลือจากแพทย์ แต่บางคนก็คิดว่าเดี๋ยวก็คงหายเองโดยไม่ต้องรักษา

ผู้ป่วยร้อยละ 80 ไม่ได้มาพบแพทย์ในเวลาที่สมควร ร้อยละ 60 ไม่เคยเข้ารับการรักษา นี่เป็นเพราะบางคนเชื่อว่าโรคซึมเศร้าหายเองได้ถ้าเราตั้งใจมากพอ ความจริงแล้ว ร้อยละ 54 เชื่อว่าโรคซึมเศร้าเป็นความอ่อนแอทางจิตใจของแต่ละคนเอง ซึ่งนี่ไม่จริงเลย (อ้างอิงจาก "Am I just sad-or truly depressed?", Dr.Gali Saltz, New York Presbyterian Hospital)



โรคซึมเศร้าคืออะไร?

โรคซึมเศร้าเกิดขึ้นได้ทั้งจากปัจจัยทางร่างกาย จิตใจ และสังคมแวดล้อม มันไม่ใช่ความเศร้า การเสียใจหลังจากความสูญเสียเป็นสิ่งสำคัญของกระบวนการเมื่อเราสูญเสียอะไรสักอย่าง การรู้สึกเศร้าหลังหย่าร้าง คนใกล้ชิดเสียชีวิต ตกงาน หรือต้องย้ายบ้านกะทันหัน เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลก คุณควรหาคนคุยด้วยหากำลังใจจากคนอื่น ๆ เพื่อไม่ให้ความรู้สึกกลายเป็นโรคซึมเศร้ามากกว่า

อย่างไรก็ตาม หากความรู้สึกเหล่านั้นเกิดขึ้นบ่อย ความเศร้าและความวิตกกังวลค่อย ๆ ครอบงำชีวิตคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นไปได้ว่าจะทำให้ฟังก์ชั่นของชีวิตเสียหาย และหมดความสุขในการใช้ชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้โรคซึมเศร้าสามารถทำได้ และคุณควรจะปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อให้ชีวิตกลับมาดังเดิม



จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณเป็นโรคซึมเศร้าจริงรึเปล่า

ถ้าคุณมีอาการต่อไปนี้ครึ่งหนึ่งหรือมากกว่าเป็นเวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป หรือถ้าอาการเหล่านี้ทำให้คุณไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ คุณก็อาจจะเป็นโรคซึมเศร้า
- รู้สึกเศร้า วิตกกังวล หรือว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง
- นอนน้อยเกินไป (ตื่นเร็วแล้วนอนไม่หลับ) หรือนอนมากเกินไป
- ไม่รู้สึกอยากอาหาร หรือกินอาหารเพิ่มขึ้นจนผิดสังเกต
- หมดความสนใจในกิจกรรมต่าง ๆ
- รู้สึกรำคาญ อยู่ไม่สุข
- ไม่สามารถตั้งสมาธิ หรือตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ
- รู้สึกอ่อนเพลีย
- รู้สึกหมดหวัง ไม่มีคนช่วยเหลือ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า
- มีปัญหาทางกายที่ไม่ทราบสาเหตุ เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง
- คิดฆ่าตัวตาย

อย่างไรก็ตาม โรคซึมเศร้าอาจแสดงอาการแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนอาจจะอ่อนเพลีย เชื่องช้า รู้สึกสิ้นหวัง ในขณะที่อีกคนก็อาจจะหงุดหงิดง่ายและขี้รำคาญ



อะไรคือสาเหตุ?

โรคซึมเศร้าเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ การใช้สารเสพติด ตกงาน ปัญหาการเงิน ปัญหาสุขภาพ ภาวะการมีบุตรยาก วัยทอง หรือแม้แต่การรับหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น อัลไซเมอร์ หรือมะเร็ง โดยผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคนี้มากกว่าผู้ชายถึง 70% และมักเริ่มต้นเมื่ออายุราว 32 ปี



เหตุผลดี ๆ ที่คุณควรรักษาโรคซึมเศร้า

1. คุณจะหลับสบายขึ้น โรคซึมเศร้าอาจทำให้คุณนอนไม่หลับหรือตื่นเร็วกว่าปกติ วันต่อมาคุณจะยิ่งอ่อนเพลีย และโรคซึมเศร้าก็จะรุนแรงขึ้นเพราะการที่คุณอดนอนนี่เอง

2. ชีวิตรักดีขึ้น ยาต้านโรคซึมเศร้าบางตัวอาจทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง แต่บ่อยครั้ง โรคซึมเศร้านี่แหละเป็นตัวการบ่อนทำลายชีวิตรัก เคยมีการศึกษาชี้ว่าผู้ป่วยกว่า 70% หมดความสนใจทางเพศหากไม่ได้รับยา ทั้งนี้ การรักษาจะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นด้วย

3. บรรเทาปวด การรักษาโรคซึมเศร้านอกจากจะทำให้คุณรู้สึกดีแล้วยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ซึ่งการศึกษามากมายชี้ว่าคนที่มีอาการ เช่น ปวดข้อหรือไมเกรน จะรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นหากมีอาการซึมเศร้า

4. ทำงานได้ดีขึ้น เพราะหากคุณเป็นโรคซึมเศร้า คุณอาจไม่มีสมาธิทำงานและทำผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง

5. สมองเฉียบแหลมความจำดีขึ้น โรคซึมเศร้าอาจจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสมองบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความจำและการตัดสินใจ แต่ไม่ต้องห่วงไปเพราะอาการเหล่านี้รักษาได้

6. ครอบครัวมีความสุข บ่อยแค่ไหนที่คุณรู้สึกโมโหจนไปลงกับคนรอบข้างแล้วมาเสียใจทีหลัง ซึ่งการรักษาจะช่วยให้คุณมั่นคงขึ้น และลดความตึงเครียดในครอบครัว

ผลการสำรวจจาก National Mental Health Association เผยว่า ผู้หญิงร้อยละ 41 รู้สึกอายที่จะต้องรับการรักษาทางจิต สิ่งที่คุณควรทราบก็คือ โรคซึมเศร้าไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ถ้าไม่รักษามันอาจอันตรายถึงชีวิต เพราะจากการศึกษาเดียวกันนี้ ร้อยละ 15 ของผู้ป่วยลงเอยด้วยการฆ่าตัวตาย หากคุณสงสัยว่าคนที่คุณรักหรือตัวคุณเองมีอาการดังกล่าว ก็ควรมาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยต่อไป


ขอบคุณที่มา : Lisa และ http://health.kapook.com/view30735.html
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 ก.ย. 11, 08:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*073



Jesus loves you and so do I.
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
hana
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 21 ก.ย. 11, 10:58 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เป็นคนชอบเศร้ามาก q*074q*074
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม