มีเรื่องน่าเกลียดของห้างคาร์ฟูร์จะมาบอกกล่าวให้เพื่อนๆได้ทราบกันค่ะ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2553 เวลาประมาณ บ่ายโมงครึ่ง ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งได้เข้าไปซื้อของที่ห้างคาร์ฟูร์ เขตจังหวัดสมุทรปราการ เธอได้ซื้อของทั้งแป้งพัฟ ยาสระผม ทิชชู่กล่อง และขนมโยโย่ จำนวนเกือบ 70 แพค ซึ่งมันก็แทบจะล้นรถเข็น เธอได้ไปจ่ายเงินเรียบร้อย และได้ขนของทั้งหมดไปใส่ไว้ในรถก่อน จึงย้อนกลับขึ้นไปหาซื้อกล่องใส่ข้าวสารอีกแต่เดินหาอยู่นานก็ไม่เจอสินค้า จึงได้ไปเลือกของเล่นให้ลูก แล้วก็ออกมาจ่ายเงิน โดยเธอบอกว่าไม่ต้องใส่ถุงหรอกแค่ชิ้นเดียว เปลืองถุง ขณะที่กำลังจะเดินออกนั้น ได้มีรปภ.ทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้ามาถามเธอว่าแชมพูกับแป้งพัฟที่หยิบไปเอาไปไว้ไหน โดยที่ถามเธอกลางทางเดินห้างเลย สายตาหลายคู่มองมาที่เธอว่าเธอเป็นขโมยแน่ๆ เธอก็บอกว่าก็จ่ายเงินไปแล้วก็เอาของไปเก็บใส่รถสิ แล้วเธอก็หยิบใบเสร็จออกมาให้ดู แทนที่รปภ.จะขอโทษเธอสักคำก็ไม่มี ได้แต่บอกว่า"งั้นก็แล้วไป" เธออึ้งเลย แล้วเธอก็โทรหาผู้จัดการสาขา แต่เจอเลขา ก็รับเรื่องไว้ แล้วเธอก็กลับไปขอชื่อรปภ.สองคนนั้นแทนที่จะขอโทษกลับบอกว่า "เมื่อกี้ที่ทำน่ะเพราะดูจากกล้อง cctv ว่าเธอหยิบของแต่ไม่รู้ว่าของไปไหน" เธอก็เลยบอกว่างั้นทำไมไม่ดูcctv ตอนเธอจ่ายเงินมั่งหล่ะ รปภ.กลับโบ๊ยความผิดไปที่อีกคนและบอกว่าช่วงนี้มีแก๊งค์ตกทองเยอะ งั้นก็ว่าเห็นเธอเป็นแก๊งค์ตกทองอีกนะสิ ยัดไปอีกหนึ่งข้อหา และที่สำคัญคำขอโทษไม่หลุดออกมาจากปากเลยสักคำเดียว
เท่าที่ทราบความคืบหน้า ทางห้างบอกว่าจะขอสอบสวนกับรปภ. และให้ออกนอกพื้นที่คาร์ฟูร์ ไม่ทราบว่านอกพื้นที่ไหนนะ และทางเจ้าทุกข์ก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครเคยเจอประสบการณ์แบบนี้บ้างช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ 