แอคคอร์ จับมือ จินเจียง โฮเทลส์ ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อร่วมกันผลักดันแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบริการ
สองผู้นำด้านการบริการผนึกกำลังกันขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ในอุตสาหกรรมโรงแรม
การประชุมสภาผู้ประกอบการจีน-ฝรั่งเศส ครั้งที่ 5 (The Fifth Meeting of the Council of China-France Entrepreneurs) ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน ณ กรุงปักกิ่ง โดยมีประมุขแห่งรัฐของจีนและฝรั่งเศส รวมถึงผู้แทนจากรัฐบาลและผู้ประกอบการทั้งจีนและฝรั่งเศสเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง โดยการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การอภิปรายในหัวข้อต่าง ๆ ทั้งการค้า การลงทุน เทคโนโลยี และการท่องเที่ยว
ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ บริษัท เซี่ยงไฮ้ จินเจียง อินเตอร์เนชันแนล โฮเทลส์ (Shanghai Jin Jiang International Hotels) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นนำของจีน และ แอคคอร์ (Accor) กลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นนำของโลก ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่มีกำหนดสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2576 ว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยมีเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมและผลักดันการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืนทั่วทั้งอุตสาหกรรมการบริการ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของอุตสาหกรรม ทั้งสองฝ่ายได้แสดงเจตจำนงที่จะบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนถึงเพดานสูงสุดภายในปี พ.ศ. 2573 ก่อนที่จะลดลงจนบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2603 นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างและกำหนดกรอบการวัดผลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ที่ปรับให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมโรงแรมโดยเฉพาะ เพื่อสร้างเกณฑ์มาตรฐานและกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงสำหรับอุตสาหกรรมโรงแรม ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อบุกเบิกมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่ในส่วนของห้องพักที่ยั่งยืนและการลดขยะอาหาร ตลอดจนสำรวจโอกาสทางการเงินที่ยั่งยืน และเปิดตัวโครงการฝึกอบรมระดับโลก
ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่างจินเจียง โฮเทลส์ กับแอคคอร์ ในการบุกเบิกมาตรฐาน ESG ใหม่ในอุตสาหกรรมโรงแรม ตลอดจนมีส่วนร่วมในความพยายามด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลในวงกว้าง เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในประเทศจีน
ในส่วนของการพัฒนาห้องพักที่ยั่งยืนนั้น จินเจียง โฮเทลส์ และแอคคอร์ ตั้งใจว่าจะสำรวจความเป็นไปได้ในการสร้างห้องพักที่ยั่งยืน ด้วยการลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการก่อสร้างและการดำเนินงานโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์ของแขกผู้เข้าพัก ขณะเดียวกัน ทั้งสองบริษัทตั้งเป้าลดค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำและค่าไฟฟ้าลง 10% ภายในปี พ.ศ. 2573 ส่วนในแง่ของการลดขยะอาหารนั้น ทั้งสองฝ่ายตั้งใจว่าจะวางกระบวนการที่เป็นมาตรฐานโดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นสากลเพื่อลดขยะอาหารที่เกิดขึ้นในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดซื้อ การจัดเลี้ยง การให้บริการแขกของโรงแรม ไปจนสิ้นสุดการเข้าพักของแขก ด้วยความมุ่งมั่นในการลดขยะอาหารลง 30% ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่าการบุกเบิกมาตรฐาน ESG ใหม่ในอุตสาหกรรมโรงแรมจะมีบทบาทสำคัญที่ช่วยสนับสนุนความพยายามของจีนในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และมีส่วนสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายจะเปิดตัวโครงการฝึกอบรม "โรงเรียนเพื่อการเปลี่ยนแปลง" (School for Change) สำหรับพนักงานในสำนักงานใหญ่และโรงแรมทุกระดับในเครือ โดยแรกเริ่มนั้น โครงการดังกล่าวเปิดตัวครั้งแรกที่สำนักงานใหญ่ของแอคคอร์ทุกแห่งเพื่อเพิ่มการรับรู้ของพนักงานเกี่ยวกับความท้าทายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน และภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ พนักงานและบุคลากรที่มีความสามารถของทั้งสองบริษัทจะสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลและแนวทางการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นในเรื่องพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อช่วยให้บุคลากรแต่ละคนมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสาเหตุและผลกระทบที่มีต่อความหลากหลายทางชีวภาพและชุมชน อันจะนำไปสู่การแบ่งปันวิธีแก้ปัญหาและการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในทุกระดับ
นอกจากนี้ ภายใต้บันทึกความเข้าใจดังกล่าวจะมีการประเมินและสำรวจโอกาสในการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจในด้านการเงินที่ยั่งยืน โดยทั้งสองฝ่ายหวังที่จะพัฒนาความเป็นไปได้ในการใช้การเงินที่ยั่งยืนเป็นเครื่องมือสร้างความเปลี่ยนแปลง ซึ่งแนวคิดริเริ่มนี้จะเกี่ยวข้องกับการใช้สินเชื่อและการเงินสีเขียวเพื่อช่วยสร้างการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างเงื่อนไขทางการเงินกับเป้าหมายและมาตรฐานความยั่งยืนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
อ่านเพิ่มเติม https://www.thaipr.net/general/3325411