พรสวรรค์ไม่มีเพศ: ซาน เพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี เปิดตัวซีรีส์การสัมมนาผ่านเว็บโฉมใหม่ มุ่งถกแนวทางสร้างวงการทำอาหารที่เป็นธรรมและเท่าเทียมมากขึ้น
พรสวรรค์อันหลากหลายเป็นค่านิยมของซาน เพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี (S.Pellegrino Young Chef Academy) ชุมชนที่สร้างแรงบันดาลใจซึ่งก่อตั้งโดยซาน เพลลีกรีโน (S.Pellegrino) เพื่อมุ่งบ่มเพาะเชฟรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการนี้ แบรนด์น้ำแร่อัดลมชั้นนำนี้จึงขอนำเสนอ "การขับเคลื่อนความสมดุลทางเพศในครัว" (Driving gender balance in kitchens)ฟอรัมดิจิทัลเพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศภายในภาคอาหาร
รับชมข่าวประชาสัมพันธ์ในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.multivu.com/players/uk/9111251-the-talent-has-no-gender-s-pellegrino-launches-webinar-series/
ตอนนี้เรามาถึงไหนแล้วในแง่ภาพแทนของผู้หญิงในอุตสาหกรรมนี้ อะไรคือรากเหง้าของความเหลื่อมล้ำทางเพศ ทำไมจึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง เราจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความหลากหลายในร้านอาหารได้อย่างไรบ้าง ทั้ง 4 ตอน ซึ่งอยู่เว็บไซต์ของซาน เพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี พาสำรวจแง่มุมต่าง ๆ ของความเหลื่อมล้ำทางเพศ พร้อมสรุปแผนงานของการเปลี่ยนแปลง
นอกจากทอม เจนกินส์ (Tom Jenkins) นักข่าวและโฆษกประจำซาน เพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ในฐานะผู้ดำเนินรายการแล้ว บุคคลสำคัญของการอภิปรายว่าด้วยวิธีการสร้างภาคส่วนที่เป็นธรรมและมีภาพแทนมากขึ้น ประกอบด้วย มาเรีย กานาบาล (Maria Canabal) นักข่าวระดับรางวัล ผู้ก่อตั้งและประธานปาราเบเร ฟอรั่ม (Parabere Forum), วิกกี้ เลา (Vicky Lau) เชฟและเจ้าของกิจการร้านมิชลินระดับ 2 ดาวอย่างเทต ไดนิ่ง รูม (Tate Dining Room) และโมรา (Mora) ในฮ่องกง, คริสตินา บาวเวอร์แมน (Cristina Bowerman) เชฟหญิงหนึ่งเดียวในกรุงโรมที่ไม่เพียงแต่กุมบังเหียนร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ที่กลาส ออสตาเรีย (Glass Hostaria) แต่ยังคว้า 3 ส้อม (Three Forks) จากกัมเบโร รอสโซ่ (Gambero Rosso) และนิโคไล นอร์การด์ (Nicolai N?rregaard) เชฟและเจ้าของร่วมของร้านอาหารระดับดาวมิชลินอย่างกาโด (Kadeau) ในเมืองบอร์นโฮล์ม และกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
สาระสำคัญจากซีรีส์การสัมมนาผ่านเว็บ
- ครัวในฐานะคลับของผู้ชาย
คุณกานาบาล ซึ่งเปิดด้วยประวัติศาสตร์ของอาหารสมัยใหม่ เน้นย้ำว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ระบบกองพล (brigade system) ในห้องครัวที่มีลักษณะคล้ายกองทัพ ซึ่งเชิดชูผู้ชายและทัศนคติเหยียดเพศได้ผลักให้เชฟหญิงก้าวถอยหลัง โดยเชฟหญิงมักไม่ถูกยอมรับและถูกนำเสนอ
ด้านเชฟชื่อดังได้ยืนยันเรื่องนี้เช่นกัน โดยเชฟเลา กล่าวว่า "หากคุณดูรายชื่อผู้หญิงที่ได้รับรางวัลทั่วโลกแล้ว เกือบทุกคนล้วนเป็นเจ้าของร้านอาหาร สำหรับเรา การเป็นอิสระเป็นหนทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงระบบนี้ได้ และแม้จะไม่มีประสบการณ์ แต่เมื่อฉันเริ่มคนเดียว ฉันก็ไม่อยากผลิตซ้ำระบอบทหารอันก้าวร้าว ฉันได้เลือกและยังคงคัดเลือกคนที่สงบ นิ่ง และสมดุลต่อไป"
เชฟนอร์การด์ตัดสินใจที่จะบริหารครัวของเขาให้ต่างออกไป โดยไม่อดทนต่อน้ำเสียงที่ดุดัน การตะโกน และความตึงเครียด ขณะที่เชฟบาวเวอร์แมนเสริมว่า "ฉันมักเป็นคนตัดสินใจในขั้นสุดท้ายเสมอ แต่ฉันเรียนรู้จากเชฟชายว่าต้องอ่อนโยนและให้เกียรติ"
- ปัญหาภาพแทนของเชฟหญิงในสื่ออาหาร คณะกรรมการ และตามอีเวนต์
เมื่อค้นหาคำว่า "เชฟชื่อดัง" ทางออนไลน์ ภาพที่ปรากฏมักจะเป็นผู้ชาย แต่เชฟคนแรกที่ได้รับรางวัลดาวมิชลิน 3 ดาว ถึง 2 ครั้ง กลับเป็นผู้หญิง ซึ่งก็คือ อุชเชนี บราซิเย (Eugenie Brazier) เมื่อปี 2476
"นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าผู้หญิงในครัวระดับสูงไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น" กานาบาล เน้นย้ำ "แต่ปัจจุบัน พวกเธอได้รับค่าจ้างน้อยกว่าเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชาย 28% และหาก 93% ของการทำอาหารในบ้านเป็นอภิสิทธิ์ของผู้หญิง หาก 48% ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีในโรงเรียนสอนทำอาหารเป็นผู้หญิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก 55% ของประชากรโลกเป็นผู้หญิง ยังมีความจำเป็นอีกหรือไม่ที่จะต้องแยกความแตกต่างระหว่างเชฟชายกับเชฟหญิง พรสวรรค์นั้นไม่มีเพศ เรากำหนดพรสวรรค์ในรูปทรงของผู้หญิง หรือเรากำหนดพรสวรรค์ในรูปทรงของผู้ชายกันมากกว่า"
เชฟเลา กล่าวว่า "ฉันมักจะรู้สึกว่าถูกสัมภาษณ์ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกขอให้แสดงความเห็นในฐานะเชฟหญิงและเจ้าของที่เป็นผู้หญิง ราวกับว่ามีความแตกต่างกับผู้ชาย และราวกับว่างานของฉัน เส้นทางของฉันไม่มีความสำคัญในตัวมันเอง" นอกจากนี้ คุณบาวเวอร์แมน ได้แบ่งบันประสบการณ์ของเธอเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างที่ไม่เท่าเทียมว่า "ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นตัวเลือกที่สองสำหรับหลายกิจกรรม ผู้ที่จัดงานเทศกาล งานอีเวนต์ หรือฟอรัม ต่างมองหาผู้หญิง โดยไม่ได้คำนึงจากความสามารถหรือจากเส้นทางของเธอ แต่จากการเป็นผู้หญิงเท่านั้น และปฎิบัติต่อเราราวกับแทนกันได้" บาวเวอร์แมนเสริมว่า "ผู้หญิงจะได้รับข้อเสนอค่าตัวน้อยกว่าผู้ชายประมาณ 20% และข้อเสนอจะลดลงทุกครั้งที่เราย้ายไปอันดับที่สองในรายการ"
ตามข้อพิสูจน์นี้ แขกที่เป็นผู้หญิงในอีเวนต์ต่าง ๆ ล้วนมีสัดส่วนเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด ยกเว้นคณะผู้ตัดสินของการแข่งขันซาน เพลลีกรีโน ยัง เชฟ อคาเดมี ซึ่ง 57% เป็นผู้หญิง
- การพัฒนาสมดุลชีวิตทำงานเป็นวัตถุประสงค์ร่วมกัน
เลา เบาเวอร์แมน และนอร์การด์ เห็นพ้องกันว่าต้องกำจัดภาพเหมารวมในครัว
การทำงานในภาคบริการเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับคนทุกเพศ และทุกคนรู้สึกถึงความจำเป็นที่ต้องหาโซลูชันที่ยืดหยุ่นสำหรับระบบกองพล และพัฒนาสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับการทำงาน
ทอม เจนกินส์ แสดงความเห็นว่า "เราตระหนักดีว่าการทำอาหารอาจเป็นอุตสาหกรรมที่ท้าทายสำหรับเชฟหญิง และพวกเธอมักจะถูกมองข้าม ด้วยเหตุนี้ เราจึงรู้สึกภูมิใจอย่างมากกับโครงการเว็บบินาร์ที่เป็นหนึ่งในกิจกรรมการศึกษาของอคาเดมีของเรา เพื่อชูประเด็นเรื่องความสมดุลทางเพศมาเป็นศูนย์กลางของการอภิปราย เผยแพร่แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับความเท่าเทียม และเสนอแรงบันดาลใจให้แก่เชฟหญิงรุ่นใหม่ในการพัฒนาวิชาชีพ"
วิดีโอ - https://mma.prnewswire.com/media/1940489/S_Pellegrino_Gender_Balance.mp4
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1940487/S_Pellegrino_diverse_talent.jpg