หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: เจาะลึก "ฮูเวอร์อุตสาหกรรม" ผู้นำธุรกิจบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง  (อ่าน 42 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 10 ส.ค. 22, 12:12 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
เจาะลึก "ฮูเวอร์อุตสาหกรรม" ผู้นำธุรกิจบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง
ปรับตัวแก้โจทย์ตลาดไทย - สร้างมาตรฐานแข่งขันตลาดโลก


ฮูเวอร์อุตสาหกรรม (ประเทศไทย) แสดงศักยภาพโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชี้จุดเปลี่ยนตลาดเครื่องสำอางไทย เร่งปรับตัวแก้โจทย์โกยฐานลูกค้า SME พร้อมเร่งยกระดับนวัตกรรมสร้างสินค้าไอเดียเฉพาะ ภายใต้วัตถุดิบรักษ์โลก ต่อยอดสู่การแข่งขันท้าทายคู่แข่งในตลาดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางโลก

นายเอนก เขมพาณิชย์กุล Design Director บริษัท ฮูเวอร์อุตสาหกรรม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของ Thai Hoover Industry ว่า ฮูเวอร์อุตสาหกรรมเป็นโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางกลุ่ม Color cosmetics ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งมาประมาณ 40 ปี โดยรับเอาองค์ความรู้และเทคโนโลยีมาจากพาร์ทเนอร์จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ฮูเวอร์อุตสาหกรรมสามารถผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางได้แบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มรับวัตถุดิบ (Raw Materials) ทั้งในกลุ่มพลาสติก และวัตถุดิบที่เป็นจุดแข็งของบริษัทฯ อย่างอะลูมิเนียม ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการผลิต จนออกเป็น Finished Goods นำส่งให้ลูกค้าในไทยและต่างประเทศ รวมถึงลูกค้า Global Brand อาทิ Yves Saint Laurent, Dior, Givenchy ฯลฯ

แต่เดิม ฮูเวอร์อุตสาหกรรม มีกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ 2 กลุ่ม คือลูกค้าในประเทศและลูกค้าต่างประเทศ ในสัดส่วนเท่า ๆ กันที่ร้อยละ 50:50 แต่ในช่วง 5 ปีหลังก่อนเกิดสถานการณ์โควิด คือช่วงที่ฐานลูกค้าในประเทศของฮูเวอร์อุตสาหกรรม เริ่มมีจำนวนลดลง แต่ก็ถูกชดเชยด้วยจำนวนลูกค้าต่างประเทศที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าจากประเทศฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ที่เข้ามาแทนที่ด้วยสัดส่วนราว 70-80%


นายเอนก เผยว่าผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์โควิด คือการที่ End-user ลดการใช้เครื่องสำอาง จนลูกค้าต้องชะลอการผลิต แต่ผลกระทบหลักที่เกิดกับฮูเวอร์อุตสาหกรรม รวมถึงโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางทั่วประเทศ เกิดมาจากปัญหาที่สะสมมานานของโครงสร้างธุรกิจเครื่องสำอางไทย

"เมื่อ 10 ปีก่อน ตลาดเครื่องสำอางไทยแข่งขันกันด้วยผู้เล่นหลักไม่กี่เจ้า ที่มีทั้งกำลังการผลิตและกำลังการซื้อ แต่ในระยะหลังที่ออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ตลาดเครื่องสำอางเกิดผู้เล่นใหม่อย่างกลุ่ม SME ที่มีแนวทางการทำธุรกิจต่างจากเจ้าใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องทุนทรัพย์ในการลงทุน ซึ่งลูกค้า SME ไม่สามารถสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์ในจำนวนขั้นต่ำ (MOQ) ของโรงงานได้ ข้อจำกัดนี้คือผลกระทบเสียหายต่อทั้ง 2 ฝ่าย คือฝั่ง SME จะไม่ได้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ Custom ได้เองตามต้องการ ส่วนฝั่งโรงงานจะมีสัดส่วนลูกค้าในประเทศหายไป และอาจหมายถึง Margin จำนวนมากที่หายตามไปด้วย"

ความเปลี่ยนแปลงของตลาดเครื่องสำอาง ถือเป็นโจทย์ท้าทายที่ ฮูเวอร์อุตสาหกรรม ต้องปรับตัวในการเร่งดึงฐานกลุ่ม SME เพิ่มสัดส่วนลูกค้าในประเทศไทย รวมถึงการเพิ่มศักยภาพบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเจ้าใหญ่ พร้อมสร้างความเป็นนวัตกรรมเพื่อยกระดับการแข่งขันกับโรงงานบรรจุภัณฑ์ในระดับ Global


"เราพยายามสร้างการเข้าถึงลูกค้า SME ด้วยวิธีที่แตกต่างจากในอดีต เพราะหลัก ๆ แล้ว บรรจุภัณฑ์คือปัจจัยท้าย ๆ ที่กลุ่ม SME จะนึกถึงในตอนสร้างแบรนด์ จึงเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะรู้จักกับโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ นั่นทำให้งาน Exhibition หรืองานแสดงสินค้าลักษณะ B2B กลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ในการเข้าถึงคู่ค้าใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น SME หรือซัพพลายเออร์ และเรายังมองถึงข้อดีในการได้เจาะไปในกลุ่มโรงงานใส่เนื้อหรือ Filling Company ที่มีจำนวนเกิดใหม่ไม่น้อยกว่ากลุ่ม SME เพื่อสร้างโอกาสการเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันในอนาคต"

อีกสิ่งที่ ฮูเวอร์อุตสาหกรรม ได้เร่งปรับตัว คือการสร้างสินค้าใหม่ ๆ และสิ่งที่เป็นนวัตกรรมที่แตกต่างจากในตลาด ด้วยการนำ Know-how จากองค์ความรู้และเทคโนโลยีมาผนวกกับงานดีไซน์และวิศวกรรม เพื่อออกแบบสินค้า Unique ที่มีความเฉพาะตัว และมีความสามารถแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกได้ ประกอบกับอีกจุดแข็งของฮูเวอร์อุตสาหกรรม ในการโฟกัสถึงนโยบายผลิตภัณฑ์รีไซเคิล ด้วยการนำ ECO Materials มาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

"ไทยฮูเวอร์ เป็นโรงงานที่ใช้พลาสติกค่อนข้างเยอะ" นายเอนก กล่าว "ด้วยความที่เทรนด์สิ่งแวดล้อมเป็นเทรนด์ที่ทุกอุตสาหกรรมทำกัน วิธีที่ดีที่สุดในการรับผิดชอบพลาสติกของเราคือการไม่กำจัด ไม่ทำลาย แต่นำกลับมาใช้ใหม่ด้วยวิธีการรีไซเคิล โดยนำ Post-consumer Recycled หรือพลาสติกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางที่ End-user ใช้แล้วทิ้ง มาผ่านกระบวนการแปรรูปเป็นเม็ดพลาสติกส่งกลับมายังโรงงาน ซึ่งในภาคนโยบายที่เราทำร่วมกับลูกค้ากลุ่มยุโรป จะมีระบุไว้ชัดเจนว่าทุกบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตและส่งขาย จะต้องมีวัตถุดิบ Post-consumer Recycled รวมอยู่กี่เปอร์เซ็นต์"


นอกจากการนำพลาสติกรีไซเคิลมาเป็นวัตถุดิบในบรรจุภัณฑ์แล้ว ฮูเวอร์อุตสาหกรรม ยังมองไปถึงการใช้วัสดุที่มีผลดีต่อโลกไปอีกระดับ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบลักษณะของ ECO Base อาทิ พลาสติกที่ไม่ได้มาจากปิโตรเลียม แต่มาจากพืช แกลบ หรือข้าวโพด รวมถึงพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Biodegradable Plastic) สร้างบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางที่เป็น Industrial Compost คือจะไม่ย่อยสลายในขณะที่ใช้งาน แต่จะเริ่มย่อยสลายในพื้นที่ที่มีองค์ประกอบทางจุลินทรีย์ อุณหภูมิ และความชื้นที่เหมาะสม

พบกับบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางของ ฮูเวอร์อุตสาหกรรม (ประเทศไทย) ได้ที่งาน Cosmoprof CBE ASEAN 2022 ในระหว่างวันที่ 15-17 กันยายน 2565 นี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี และติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ www.thaihoover.com หรือ www.facebook.com/thaihoover
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:  ฮูเวอร์อุตสาหกรรม  Thai Hoover Industry  บรรจุภัณฑ์  เครื่องสำอาง  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม