หากย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน การสร้างเว็บไซต์ ขึ้นมาสักเว็บไซต์หนึ่งจะต้องมีความรู้เรื่อง Coding และความเชี่ยวชาญด้าน IT เป็นอย่างมาก แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาระบบการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ (Content Management System) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “CMS” ขึ้นมา ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าใครก็สามารถที่จะสร้างเว็บไซต์เป็นของตนเองได้ แล้ว CMS คืออะไร ช่วยสร้างเว็บไซต์ได้อย่างไร แพลตฟอร์ม CMS ไหนที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ไปดูกัน
รู้จักกับ CMS ตัวช่วยในการสร้างเว็บไซต์แสนง่าย
CMS คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้การสร้างเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น รองรับทั้งการพัฒนาเว็บไซต์ (Development) และการบริหารงานเว็บไซต์ (Management) ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม CMS สำหรับสร้างเว็บไซต์หลายราย แต่ละรายก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ เมนูผู้ควบคุมระบบ (Administration panel) และหน้าเว็บไซต์ โดยเมนูผู้ควบคุมระบบจะเป็นที่สำหรับสร้างเว็บไซต์ ตกแต่งเว็บไซต์ อัปโหลดโมดูล (Module) ปลั๊กอิน (Plugin) หรือบทความ (Article) ต่าง ๆ นั่นเอง
แนะนำแพลต์ฟอร์ม CMS สำหรับสร้างเว็บไซต์ ใช้งานได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำหรับใครที่สนใจจะสร้างเว็บไซต์เป็นของตนเอง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี แนะนำให้ลองสร้างเว็บไซต์ด้วย 2 แพลตฟอร์ม CMS ยอดนิยมอย่าง WordPress หรือ Joomla ดูก่อน เป็นแพลต์ฟอร์ม CMS ที่สามารถใช้งานได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากจะได้ลองใช้โปรแกรมการสร้างเว็บไซต์ดูแล้ว ยังช่วยปูพื้นฐานให้สามารถไปคุยกับนักพัฒนาเว็บไซต์ นักออกแบบเว็บไซต์ หรือนักการตลาด ในกรณีที่ต้องการสร้างเว็บไซต์แบบจริง ๆ จัง ๆ ในอนาคตด้วย
1. WordPress
หากถามว่าแพลตฟอร์ม CMS ไหนที่คนนิยมใช้ในการสร้างเว็บไซต์มากที่สุด ทุกคนจะต้องตอบว่า WordPress แน่นอน เพราะเป็น CMS ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายที่สุด โดย WordPress เป็นโปรแกรมสร้างเว็บไซต์ที่เขียนด้วยภาษา PHP และใช้ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ คือ WordPress Core ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์หลักที่ใช้ในการจัดการเว็บไซต์ เนื้อหา และบทความต่าง ๆ Theme รูปแบบการแสดงผลของเว็บไซต์ และ Plugin เป็นส่วนเสริมของเว็บไซต์ เช่น ระบบการสั่งซื้อ ระบบสมาชิก หรือระบบแสดงความคิดเห็น เป็นต้น
2. Joomla
Joomla เป็นแพลตฟอร์ม CMS ที่เขียนด้วยภาษา PHP และใช้ระบบฐานข้อมูล MySQL ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน แต่จะใช้งานยากกว่า WordPress เล็กน้อย โดยจะมี Theme Plugin Module และ Extension ให้เลือกใช้งานคล้ายกับ WordPress เลย ซึ่งคุณสามารถลองสร้างเว็บไซต์ของตนเองได้เลย โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย
การสร้างเว็บไซต์ด้วย CMS นั้น แม้ว่าจะใช้งานได้ง่าย แต่ผู้ที่สร้างเว็บไซต์จะต้องออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ดี ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการพัฒนาในอนาคต และจะต้องระมัดระวังเรื่องรหัสผ่าน และการต่ออายุโดเมน ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาไม่สามารถใช้งานได้นั่นเอง