“จากเดิมที่เด็ก ๆ ต้องเล่นฟุตบอลกันตามถนนในโรงเรียนแบบบอลรูหนู หรือบอลกระเป๋า มีฟุตบาทเป็นเส้นสนาม ใช้รองเท้า กระเป๋านักเรียน เป็นประตูบ้าง ทุกวันหลังเลิกเรียนจะเห็นสนามฟุตบอลตามแต่จินตนาการของเด็ก ๆ เต็มไปหมด เวลามีรถสัญจรผ่าน สนามบอลเหล่านั้นก็ต้องหลบให้รถ ก่อนจะกลับมาเล่นกันต่อวนเวียนไปอย่างนี้จนชินตา”
อ.พนัส ประดลชอบ อดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียน เล่าย้อนกลับไปเกือบ 5 ปีก่อนที่โรงเรียนตราษตระการคุณ อำเภอเมือง จังหวัดตราด จะได้รับคัดเลือกในการสนับสนุนสนามฟุตบอลหญ้าเทียม จากโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย
“ตอนที่สนามเปิดใช้งานเด็ก ๆ เข้าไปเล่นกันแบบเต็มแทบทุกวัน รวมไปถึงคนในชุมชนก็เข้ามาจองคิวกันยาวเหยียด” ครูพนัสเล่าให้ฟังต่อว่า อากาศช่วงกลางวันร้อนมากทางโรงเรียนจึงต้องกันเวลาช่วงหลังเลิกเรียนเอาไว้ให้เด็ก ๆ ได้เล่นฟุตบอลก่อนกลับบ้าน ซึ่งมีข้อดีอีกอย่าง คือช่วยลดความหนาแน่นของการจราจรลงบางส่วน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเด็ก ๆ ก็ได้ใช้เวลาที่โรงเรียนต่ออีกสักพัก แล้วค่อยเดินทางกลับบ้านในช่วงที่ถนนเริ่มโล่งแล้ว หลังจากนั้นถึงเป็นเวลาใช้สนามของชุมชนลากยาวไปจนถึงประมาณสามทุ่ม
แม้ว่าละแวกใกล้เคียงจะมีสนามฟุตบอลหญ้าเทียมให้ใช้งานอยู่หลายแห่ง แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง สนามฟุตบอลหญ้าเทียม ของคิง เพาเวอร์ ที่โรงเรียนตราษตระการคุณ จึงกลายเป็นคอมมูนิตี้เพื่อสุขภาพให้กับชาวชุมชน โดยมีชาวบ้านช่วยค่าบำรุงสนามเพื่อเป็นค่าดำเนินการเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ที่ผ่านมาก็มีทีมฟุตบอลอิสระในจังหวัดหลายทีมติดต่อมาใช้สนามของเราฝึกซ้อมอยู่ตลอด
สนามแห่งนี้เราให้บริการทุกรูปแบบ ในช่วงที่ไม่มีการระบาดของโควิด-19 ยังเป็นที่ใช้จัดกิจกรรมของทางสมาคมครูและผู้ปกครอง รวมถึงกลุ่มศิษย์เก่า ก็จัดแข่งขันอยู่เป็นประจำ เป็นการพบปะกันและยังช่วยระดมเงินเป็นทุนการศึกษามามอบให้เด็กนักเรียน เรามุ่งหวังจะใช้ประโยชน์จากสนามให้เกิดต่อเด็กและเยาวชนสูงสุดทุกด้านตามความตั้งใจของคิง เพาเวอร์ ผู้สนับสนุนสนามฟุตบอลแห่งนี้ และให้สนามฟุตบอลแห่งนี้เป็นพื้นที่ของชุมชนที่สร้างความสุขและสุขภาพที่ดีตลอดไป”
https://web.facebook.com/kingpowerthaipower