ซาอุดีอาระเบียเตรียมเผยโฉมการประชุมสุดยอดแร่ธาตุแห่งอนาคตครั้งแรกบนหน้าประวัติศาสตร์ต่อนานาประเทศที่มีศักยภาพด้านการลงทุนเหมืองทั่วตะวันออกกลาง เอเชียกลาง และแอฟริกา
- การประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีก่อนเริ่มงานอย่างเป็นทางการจะช่วยเปิดทางให้บรรดาผู้นำจาก 25 ประเทศร่วมถกเถียงถึงยุคใหม่ของการทำเหมืองในภูมิภาคที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพ
- เหล่ารัฐมนตรีและวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านเหมืองชั้นนำของโลกจากทั้งภาคสาธารณะ อุตสาหกรรมเอกชน ตลอดนักลงทุนและองค์กรพหุภาคี ต่างก็ยืนยันตบเท้าเข้าร่วมงาน
กระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรธรณีของซาอุดีอาระเบียเผยแพร่รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดแร่ธาตุแห่งอนาคต (The Future Minerals Summit หรือ FMS) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 13 ม.ค. 2565 ณ กรุงริยาด โดยได้เปิดเผยรายชื่อวิทยากรและรายละเอียดของการประชุมโต๊ะกลมระดับสูงของเหล่ารัฐมนตรี
ทั้งนี้ บรรดารัฐมนตรีและวิทยากรระดับโลกอีกกว่า 50 คนได้ยืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ รวมถึงเหล่านักคิดชั้นนำในด้านการทำเหมือง, การลงทุน, เทคโนโลยี, การผลิต และความยั่งยืนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณมาร์ค บริสโทว์ ประธานบริษัท Barrick Gold, คุณโรเบิร์ต ฟรีดแลนด์ ผู้ก่อตั้งและประธานร่วมจากบริษัท Ivanhoe Mines, คุณอีริค แคนเทอร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท Moelis & Company, คุณแอนดรูว์ ฟอร์เรสต์ ประธานบริษัท Fortescue Metals Group, คุณแอนดรูว์ ลิเวอริส ประธานบริษัท Lucid Motors, คุณรอย ฮาร์วี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Alcoa, คุณเจเรมี เวียร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Trafigura, คุณมาร์โค แลมเบอร์ทีนี เลขาธิการองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF), คุณโทมัส แคปแลน ประธานบริษัท Novagold, คุณเจฟฟรีย์ ดอวส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Komatsu Mining Corp, คุณโรฮีเทช ตะวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสภาระหว่างประเทศด้านการทำเหมืองแร่และโลหะ (International Council on Mining and Metals หรือ ICMM) และคุณปีเตอร์ ลีออน หุ้นส่วนบริษัท Herbert Smith Freehills และทนายความด้านเหมืองมือฉมังคนหนึ่งของโลก
ทั้งนี้ ฯพณฯ คาลิด อัล-มูไดเฟอร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรธรณีของซาอุดีอาระเบียได้เปิดเผยว่า "การที่มีวิทยากรผู้ทรงเกียรติตอบรับเข้าร่วมการประชุมสุดยอดแร่ธาตุแห่งอนาคต เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงความสนใจมหาศาลที่หลายฝ่ายมีต่อพรมแดนใหม่ในการทำเหมืองอันรวมถึงตะวันออกกลาง เอเชียกลาง และแอฟริกา พื้นที่ส่วนนี้ของโลกจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตแร่ธาตุสำคัญให้สอดคล้องกับอุปสงค์โลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีความจำเป็นต่อสังคมคาร์บอนต่ำ การประชุมสุดยอดครั้งนี้จะเสนอการให้บริการแบบครบวงจร ซึ่งนานาประเทศสามารถเรียนรู้วิธีการรังสรรค์อุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืนได้จากผู้เชี่ยวชาญระดับเวิลด์คลาส และเป็นที่ที่นักลงทุนและนักธุรกิจเหมืองจะได้รับความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับศักยภาพทางธรณีวิทยาอันยอดเยี่ยมของภูมิภาคดังกล่าว"
การประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีก่อนเริ่มงานอย่างเป็นทางการจะกำหนดวาระสุดยอดแห่งการทำเมืองระดับภูมิภาค
ซาอุดีอาระเบียวางแผนจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีขึ้นในกรุงริยาดในช่วงหนึ่งวันก่อนเปิดฉากการประชุมสุดยอดแร่ธาตุแห่งอนาคต โดยมุ่งหวังกำหนดอนาคตแห่งการทำเหมืองทั่วตะวันออกกลาง เอเชียกลาง และแอฟริกา คณะผู้แทนระดับรัฐมนตรีจากรัฐบาล 25 ประเทศจะเข้าร่วมตอบคำถามสำคัญและเน้นย้ำถึงโอกาสอันยิ่งใหญ่ทั่วภูมิภาคเหล่านี้
ฯพณฯ อัล-มูไดเฟอร์กล่าวด้วยว่า "จุดมุ่งหมายของเราคือการกำหนดอนาคตการทำเหมืองและหาวิธีแก้ไขปัญหาด้านอุตสาหกรรม เช่น การรักษาอุปทานของแร่ธาตุสำคัญในอนาคตให้ปลอดภัย ด้วยการผนึกกำลังระหว่างรัฐบาล ภาคเอกชน องค์กรพหุภาคี ตลอดจนองค์การนอกภาครัฐ (NGO) เราตั้งเป้าที่จะรังสรรค์ภาคการทำเหมืองที่ดำเนินการด้วยวิถีทางที่ถูกต้อง ยั่งยืน และเที่ยงธรรม"
วิทยากรชื่อก้องโลกพร้อมแบ่งปันข้อมูลและความรู้ความชำนาญ
นอกเหนือจากวิทยากรหลายสิบท่านจากแวดวงอุตสาหกรรมเหมืองแล้ว เหล่าผู้นำจากองค์กรพหุภาคี อาทิ ธนาคารโลก, ICMM และสภาทองคำโลกยังวางแผนร่วมแบ่งปันความรู้และความเข้าใจอันลึกซึ้งในแวดวงอุตสาหกรรมเหมืองให้กับผู้เข้าร่วมการประชุมอีกด้วย
คุณโรฮีเทช ตะวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ICMM ระบุว่า "การที่อุตสาหกรรมของเราเข้าร่วมการประชุมกับรัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อสร้างกรอบงานสำหรับผลิตภัณฑ์แร่และโลหะที่มีความปลอดภัย เป็นธรรม และยั่งยืนเช่นนี้ นับเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งยังจำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN) การวิจัยของเราแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ในสภาวะที่เหมาะสม ภาคเหมืองแร่สามารถเป็นขุมพลังอันทรงอำนาจสำหรับการพัฒนาในระดับประเทศและภูมิภาค และผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มีการจัดงานสำคัญเช่นนี้ในช่วงเวลาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมและภูมิภาคดังกล่าว"
สาระสำคัญของการประชุมสุดยอดแร่ธาตุแห่งอนาคตสอดคล้องกับวาระความยั่งยืนโลก
เมื่อพิจารณาถึงอุปสงค์เทคโนโลยีที่เติบโตไปอย่างรวดเร็ว อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และกังหันลม ทั้งหมดนี้ต่างจำเป็นต้องใช้แร่ธาตุในปริมาณมาก ดังนั้นสาระสำคัญของการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับความยั่งยืน ซึ่งเป็นเนื้อหาแกนกลางร่วมกัน
- คุณประโยชน์ของการทำเหมืองที่มีต่อสังคม - เน้นย้ำบทบาทสำคัญของแร่ธาตุและการทำเหมืองในการช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในอนาคต
- การปรับภาพลักษณ์การทำเหมือง - มุ่งเน้นไปยังเทคโนโลยีและนวัตกรรมซึ่งจะรังสรรค์วิธีการทำเหมืองรูปแบบใหม่และมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
- ดินแดนแห่งโอกาส - วางกรอบโอกาสด้านการลงทุนและความเป็นหุ้นส่วนตลอดแนวห่วงโซ่มูลค่าแร่ธาตุและโลหะตั้งแต่การสำรวจไปจนถึงการผลิต
ติดตามข้อมูลข่าวสารหรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.futuremineralssummit.com
สำหรับบทบาทในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรธรณีของซาอุดีอาระเบีย ฯพณฯ อัล-มูไดเฟอร์ เป็นตัวแทนของซาอุดีอาระเบียที่การประชุมเหมืองและเงิน (Mines and Money) ณ กรุงลอนดอน (1-2 ธันวาคม 2564) โดยเขาร่วมบรรยายในงานและพูดคุยในบรรยากาศเป็นเอง รวมถึงแบ่งปันวิสัยทัศน์ที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหมืองโลก และแจกแจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดแร่ธาตุแห่งอนาคต
