ในยุค PropTech ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก จะเปลี่ยนถึงขั้นรากฐานหรือไม่ และจะกระทบกับมูลค่าทรัพย์สินของเราอย่างไร มาดูกัน
ผมในฐานะประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตทท แอฟแฟร์ส (www.area.th) ได้รับเชิญจากสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินเคนยาที่จะจัดงานประชุมอสังหาริมทรัพย์ภาคพื้นอาฟริกา ให้พูดเรื่องเทคโนโลยีกับอสังหาริมทรัพย์หรือ Property Technology (PropTech) แต่ปีนี้ไปบรรยายจริงไม่ได้เพราะอาจโดนโควิด-19 “รับประทาน” ไป จึงเป็นการประชุมทางออนไลน์ ผมจึงขอนำเสนอผลการค้นคว้ามาเป็นภาษาไทยให้ทุกท่านได้ทราบ เพื่อการเตรียมรับสถานการณ์ในอนาคต
Property Technology (PropTech) คือ เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการใช้เทคโนโลยีช่วยให้บริการอำนวยความสะดวกภายในบ้าน คอนโด สำนักงาน หรือการใช้เทคโนโลยีนำมาช่วยการขาย การโฆษณา รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงิน การจองห้อง การจองใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง หรือการติดต่อบริการหลังการขาย ที่ช่วยให้ไม่ต้องไปยืนต่อคิวเหมือนสมัยก่อนและสามารถสั่งงานที่ไหนก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ตรองรับ
ฐานข้อมูลยักษ์
Big Data หรือข้อมูลขนาดยักษ์ที่รวบรวมมาเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ พยากรณ์และวางแผนการพัฒนาโครงการหรือจัดการอสังหาริมทรัพย์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงและความต้องการของตลาดได้ ในสหรัฐอเมริกามีเว็บไซต์ดังๆ เช่น Zillow Trulia หรือ Redfin โดยเว็บไซต์เหล่านี้สามารถประเมินราคาบ้านนับล้านๆ หลังได้ในคราวเดียว เว็บไซต์เหล่านี้เข้าถึงข้อมูลการจราจร การซื้อขายบ้าน ข้อมูลประชากร ผลของการสำรวจความต้องการข้องผู้บริโภคและนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ถึงแนวโน้มของราคาบ้าน ศักยภาพในอนาคต การตั้งราคาขายบ้านและที่ดิน เป็นต้น
การวบรวมข้อมูลที่เกิดขึ้นฉันพลันทันทีและข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในอดีตเป็นส่วนหนึ่งของ Big Data หากเราสามารถใส่ข้อมูลการติดตั้งระบบประกอบอาคารต่างๆ เช่น ระบบเครื่องปรับอากาศ ระบบระบายน้ำ ระบบไฟฟ้า-ประปา ฯลฯ ลงในข้อมูล คอมพิวเตอร์ก็จะสามารถประมวลและแจ้งเตือนเราล่วงหน้าถึงการเปลี่ยนระบบ การซ่อมแซมได้ทันท่วงทีโดยอาจเชื่อมต่อกับเจ้าของห้องชุด นิติบุคคลอาคารชุด ช่าง และหน่วยงานขออนุญาตต่างๆ เป็นต้น
ปัญญาประดิษฐ์
Artificial Intelligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์จะช่วยในการจดจำ วิเคราะห์ ประมวลข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและใกล้เคียงความเป็นจริงโดยลดทอนความผิดพลาดของมนุษย์ (Human Errors) ลงไปได้ตามสมควร ตัวอย่างเช่น ปกติเราหาบ้านหรือห้องชุด เราจะหาตามทำเลและขนาดเรียงตามลำดับมา แต่ในอนาคต AI จะสามารถช่วยเราหาบ้านตามความพึงพอใจของเรา และเหมาะสมกับราคาที่เราสามารถจ่ายได้ หรือกระทั่งอุปนิสัย เช่น ถ้าเราชอบฟุตซอล ก็จะสามารถหาบ้านที่ใกล้สนามฟุตซอลหรือสถานที่ออกกำลังกายได้ด้วย
Chatbot เป็นตัวอย่างหนึ่งของ AI คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง ที่มีไว้สื่อสารโดยการสนทนากับมนุษย์ เพื่อประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง “ระบบช่วยตอบคำถามอัตโนมัติให้กับผู้สนทนา หรือลูกค้า จึงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับธุรกิจในยุคดิจิทัล เนื่องจากมันจะช่วยคัดกรองลูกค้า ให้ได้ข้อมูลที่ต้องการไปก่อนที่จะถึงมือของเจ้าหน้าที่ เพื่อแบ่งเบาการทำงานของเจ้าหน้าที่ หรือคนให้น้อยลง” กรณีนี้จะช่วยให้นายหน้าสามารถขายบ้านได้มากขึ้นผ่านระบบ Chatbot แทนที่จะอธิบายคำถามพื้นๆ ด้วยตนเองในแต่ละราย
AI ยังสามารถช่วยวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงราคาได้รัดกุมและใกล้เคียงความเป็นจริงได้มากขึ้น การ “บอกผ่าน” เรื่องราคาจะน้อยลง ความน่าเชื่อถือของราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายซื้อกันจะสอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น การหลอกลวงกันก็จะลดน้อยลงไปเช่นกัน ดีไม่ดีในอนาคต การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จะกระทำกันได้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโ.ดยไม่ต้องผ่านนายหน้าด้วยซ้ำไป