เรื่องล่าสุดของหมวด
ไทยเที่ยวไทย 2564 รวมดีลเด็ด ที่พัก อาหาร และโปรแกรมทัวร์ภายในงานแบบจัดเต็ม!
คลองโอ่งอ่าง เปิดให้บริการพายเรือคายัคอีกครั้ง ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
Mega Bangna เปิดพื้นที่เล่น Surf Skate บนดาดฟ้า พื้นที่กว้างกว่า 9,000 ตารางเมตร
ล่องแพสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม ริมฝั่งหนองหาร สกลนคร
ไทยเวียตเจ็ท ออกตั๋วโปรเริ่มต้น 5 บาท เปิดจองวันนี้ - 7 มีนาคม 2564
ชาวไทยได้เฮ! สงกรานต์ปีนี้จัดงานได้ แต่ต้องรักษามาตรการ COVID-19 อย่างเคร่งครัด
บ้านดินสอ ตรอกศิลป์: พักผ่อนในบ้านเก่าทรงคุณค่า
พักชิลๆ ริมน้ำประแส ไปกับมาหาสมุทร
Hotel Nikko Bangkok จัดแพ็คเกจ Work From Home ราคาสุดคุ้ม พร้อมส่วนลดห้องอาหาร 20%
สัมผัสธรรมชาติกับ 5 ที่พักสวย ชิลลมทะเลเกาะกูด
ส่องความหรูหรา "ศรีพันวา" ก่อนที่จะเปิดวิลล่าควอรันทีน สถานที่กักตัวสำหรับนักท่องเที่ยว
5 ที่พักในไทยสไตล์เหมือนเมืองนอก เที่ยวแก้ขัดในช่วงที่ยังปิดประเทศ
Fruitful Japan เสน่ห์ผลไม้ญี่ปุ่นผสมผสานกับร้านขนมในประเทศไทย
Mister Donut จัดโปรลดจัดหนัก ซื้อโดนัท 12 ชิ้น ลด 50 เปอร์เซ็นต์
คาร์ลซ จูเนียร์ (ประเทศไทย) เปิดตัวเมนูใหม่ คาร์ลซ จูเนียร์ บาร์บีคิว เบคอน เบอร์เกอร์
พาไป 6 คาเฟ่สุดชิลธรรมชาติ @ เชียงใหม่
สตาร์บัคส์ สาขาใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ไอคอนสยาม
มิติใหม่ของการทำข้าวปั้นกับ “ข้าวปั้นต้มยำกุ้ง” จาก Mai’s Kitchen
พาไปดู ศาลเจ้าที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่น!
5 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของภูมิภาคโทโฮคุช่วงฤดูหนาว
Ruyi Bridge สะพานแขวนข้ามหน้าผาที่มีรูปทรงแปลกตาที่สุดในโลก!
8 พิพิธภัณฑ์ระดับโลก เที่ยวชมแบบออนไลน์ ฟรี!
Hong Kong Wetland Park พื้นที่ชุ่มน้ำระดับโลกบนเกาะฮ่องกง
ฮ่องกงเตรียมเปิด M+ Museum หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดของโลก
หน้า: 1
แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?
ดาวมิชลินคืออะไร ต้องมีคุณสมบัติใดถึงจะได้ดาว มิชลินเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสำหรับร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งลูกค้าเต็มใจที่จะเดินทางไกลเพื่อไปสัมผัสประสบการณ์ชั้นเยี่ยมในการรับประทานอาหาร การมอบรางวัลนี้ถือเป็นเกียรติประวัติสำหรับคนเป็นเชฟและตัวร้านอาหารเอง “ดาวมิชลินมาจากสิ่งที่อยู่ในจานเท่านั้น” (The stars are in the plate and only in the plate.) เพราะนักชิมของมิชลินนั้นจะประเมินเฉพาะคุณภาพอาหารเพียงเท่านั้น ไม่นำสถานที่ตั้ง การตกแต่งร้าน บริการ หรือปัจจัยอื่นๆมาพิจารณาด้วย โดยผู้ตรวจสอบของมิชลินจะประเมินคุณภาพของร้านอาหารตามเกณฑ์ 5 ที่มิชลินกำหนดขึ้นเอง ได้แก่ คุณภาพวัตถุดิบ, การจัดเตรียมและรสชาติ, ลักษณะเฉพาะตัวของเชฟที่สื่อI ผ่านอาหารที่ปรุง, ความคุ้มค่าสมราคา, เสมอต้นเสมอปลายไม่ว่าจะไปวันไหนของเดือน ทำไมสัญลักษณ์ต้องเป็นรูปมิชลินเลียปาก ‘บิบ กูร์มองด์’ ร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง ในสมัยแรกนั้นเพื่อให้ผู้อ่านสามารถหารายชื่อร้านอาหารกลุ่มนี้ได้สะดวก จึงได้นำตัวอักษร R สีแดงมาใช้เป็นสัญลักษณ์ ในปี 2535 ตัวอักษร R นี้ถูกแทนที่ด้วยคำว่า Repas (เรอปา) ซึ่งแปลว่ามื้ออาหารในภาษาฝรั่งเศส ต่อมาในปี 2540 นักออกแบบได้ปรับปรุงรูปสัญลักษณ์ โดยเปลี่ยนมาใช้รูปบิเบนดัมหรือมิชลินแมนซึ่งเป็นที่รู้จักดีทำท่าเลียริมฝีปาก = ทำให้ ‘บิบ กูร์มองด์’ กลายเป็นทูตสำหรับอาหารสูตรดั้งเดิมที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันและราคาเป็นกันเอง รางวัลนี้มอบให้แก่ร้านอาหารคุณภาพที่นำเสนออาหาร 3 คอร์ส ได้แก่ อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวาน ในราคาที่สมเหตุสมผลเท่านั้นเราเชิญนักชิมมากินที่ร้านตัวเองก็ไม่ได้นะนักชิมจะทำงานโดยไม่เปิดเผยตัว พวกเขาจองโต๊ะในร้านอาหารล่วงหน้า สั่งอาหาร ทานอาหารโดยไม่ได้จดบันทึกข้อมูลใดๆ ระหว่างรับประทานอาหาร รวมถึงชำระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดเหมือนกับลูกค้าธรรมดาคนหนึ่ง เพราะไม่ต้องการที่จะได้รับการปฏิบัติแตกต่างไปจากลูกค้ารายอื่น อาหารของเขาจึงเหมือนกับอาหารของลูกค้าทั่วไป จะเผยตัวในกรณีที่จำเป็นหลังชำระค่าอาหารแล้วเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเท่านั้น และนี่คือที่มาคร่าวๆ ของมิชลินไกด์บุ้ค หนังสือไกด์บุ้คที่สายกินอยากจะตระเวนชิมตาม ต้องขอบคุณมิสเตอร์ อองเดร และมิสเตอร์เอดูอาร์ มิชลิน (Andr & douard Michelin) ที่ทำให้สายกินอย่างเราเข้าถึงของอร่อยได้ง่ายขึ้นส่วนไกด์บุ๊คก็ไม่ต้องไปหาที่ไหน สามารถจิ้มเข้าไปดูรายชื่อร้านได้ที่นี่ https://guide.michelin.com/th/th/restaurants/thai ซึ่งในเว็ปก็จะมีรายละเอียดคร่าวๆ ของแต่ละร้านว่าตั้งอยู่ที่ไหน เวลาเปิดปิดเมื่อไหร่ ราคาอาหารโดยประมาณ เอาจริงๆ ร้านโดยทั่วไปก็จะเป็นร้านที่เราคุ้นๆ ชื่อกันทั้งนั้น อารมณ์แบบถ้าไปประตูน้ำต้องข้าวมันไก่ร้านนี้ ไปเยาวราชต้องก๋วยจั๊บน้ำใสหรือกระเพาะปลาร้านนี้อะไรแบบนั้น วันนี้ขี้เกียจแต่อยากกินของอร่อย เราเลยไปศูนย์รวมร้านมิชลินมาไว้ที่เดียวแล้วกัน แท่แด๊,,,,ที่นั่นคือไทยเทสต์ฮับมหานครคิวบ์นั่นเอง เอาจริงคือสะดวกไงนั่งรถไฟฟ้ามาได้ทั้งไปกลับ แถมยังมีร้านจากมิชลินให้ลองหลายร้านด้วยร้านแรกคือก๋วยจั๊บนายเอ็ก ที่เลือกร้านนี้เพราะคนขายหล่อ เอ้ยไม่ใช่ๆ ที่เลือกเพราะเพื่อนสาวนางอยากกิน สมใจอยากของนางมากเพราะแต่ก่อนถ้านางอยากกินนางต้องถ่อนั่ง MRT ไปโผล่วัดมังกรแล้วเดินไปกิน(แถมร้านก็มีที่นั่งก็น้อยมากๆ ไปสายต้องไปต่อคิวเพื่อรอกินอีกด้วย) เราซึ่งชอบแบบน้ำข้นนั้นเลยได้แต่ขอชิม รสชาติก็แบบก๋วยเตี๋ยวที่เข้มข้นหน่อยรสออกไปทางเผ็ดพริกไทย ซึ่งสายน้ำข้นอย่างเรานั้นเข้าไม่ถึงหมูกรอบนั้นกรอบจริงอะไรจริงคือเพื่อนตักหมูเข้าปากเคี้ยวกรวบๆ เรานั่งตรงข้ามยังได้ยินเสียงฟันกระทบผิวหนังของหมู ที่อึ้งกว่านั้นคือนางซดน้ำซุปด้วยความเอร็ดอร่อย เรานั่งมองด้วยความอยากเข้าถึงรสชาติก๋วยจั๊บน้ำใสมาก วันหลังต้องหาทางเข้าเผ่านี้ให้ได้ร้านที่ 2 สุกี้เมาเวอริค มาถึงร้านทางของเราบ้าง ใครชอบกิ่นกระทะในอาหารผัดแบบเราบ้าง คือสุกี้แห้งเนี่ยทีเด็ดของมันคือรสของซอสสุกี้ในเส้นและความหอมกระทะไหม้เล็กน้อยเวลาเคี้ยว ไม่ใช่ว่าผัดจนสุกี้ไหม้นะ แต่มันคือกลิ่นกระทะไหม้อ่ะมัน ซึ่งถ้าร้านไหนผัดได้แบบนี้นะ เมนูเส้นผัดร้านนี้อนุมานได้ว่าจะอร่อยหมด หมูก็นุ่มเด้งดี เส้นเหนียวและผักยังมีความกรุบกรอบอยู่ ที่ดีสุดๆคือผัดออกมาไม่มันจนเกินไปเพราะถ้ากินช้ามันจะเลี่ยนมากๆ แต่จานนี้สอบผ่านจ้าร้านที่ 3 ผัดไทยไฟทะลุ แค่ชื่อก็แบบจินตนาการตามแล้วว่า เป็นผัดไทยหอมๆ บนกระทะไฟแรงๆลุกโชติช่วง ได้กลิ่นซอสไหม้ๆเป็นคาราเมลหอมๆกระตุ้นต่อมน้ำลายให้ทำงาน รสชาติก็กลมกล่อมได้แต่ไม่ได้กินแบบแล้วว้าววววววววววว คืออร่อยตามมาตรฐานอ่ะ เส้นนุ่มเหนียวดี ผัดมาได้แบบแห้งกำลังดีแบบถ้าเกินไปอีกนิดจะแห้งเกินแล้วอ่ะ ผักใส่ให้มาน้อยไปหน่อย หมูกรอบดี ไข่โปะดี ที่สำคัญตอนผัดไฟลุงท่วมดีด้วย ร้านเป็นแบบเปิดโล่งทำให้เราสามารถเห็นต้องเค้ากำลังผัดได้ด้วย ดีงามร้านที่ 4 เผ็ดเผ็ด(เฮ่) ของดีของเด็ดสั่งตรงมาจากนครพนม อันนี้เพื่อนรีเควสอีกนั่นแหล่ะ นางรักของนาง อาหารเด็ดของร้านนี้คืออะไรที่ใส่ปลาร้าคือเริ่ดหมด แต่เราไม่ได้สายนี้เต็มตัวไงเลยต้องแยกสั่งมาสองจานเลยคงทายออกไม่ยากว่าจานไหนของเรา บ่งบอกได้อย่างชัดเจนจากสีและความเผ็ดระดับชั้นอนุบาลของส้มตำ เรากินปลาร้าได้แต่กินได้แบบไม่เยอะ เพื่อนบอกว่าถ้าตำปลาร้าไม่เผ็ดมันไม่อร่อย เราชิมไปหลายคำ เผ็ดทีก็กินส้มตำตัวเองหายเผ็ดก็ไปจกจานเพื่อนใหม่อีกที ปลาร้าหอมนัวกระแทกจมูกมาก กลิ่นติดโสตจมูกขนาดที่ว่าตอนเห็นรูปเหมือนเพิ่งกินไปเมื่อกี๊ยังได้กลิ่นในจมูกและน้ำลายสอ อิทธิพลของปลาร้านั้นช่างรุนแรงเหลือเกิน ไว้กินเผ็ดได้มากกว่านี้แล้วจะมาลองตำหลวงพระบางดูเพราะตอนที่ไปยืนรอเห็นคนสั่งกันหลายคนน่าจะเป็นเมนูเด็ดแหล่ะกินเสร็จเล่นเอาเหนื่อยเลย ตอนมาถึงมันหิวเห็นอะไรก็น่ากินไปหมด เลยสั่งแบบลืมตัวไปสักหน่อยเพื่อนก็ไม่มีใครห้ามใครเลย ตอนแรกก็จะตบท้ายด้วยของหวานสักหน่อย เล็งไว้สองร้านไม่ร้านขนมไทยก็ร้านปาท่องโก๋ สุดท้ายคุณไม่ได้ไปต่อจ้า ด้วยความเผ็ดส้มตำกินส้มตำคำดูดน้ำคำนึง กินเสร็จแน่นมากกกกกก มีอีกร้านที่อยู่ในมิชลินไกด์ด้วย คือ 26ยี่สับหลก เป็นร้านรุ่นลูกก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ยที่เค้าว่ากันว่าสาวกเนื้อไม่ควรพลาด แต่!กินไม่ไหวแล้วจ้ะแม่จ๋า อะไรที่ดูๆเล็งๆไว้ ไว้ค่อยมาชิมทีหลังแล้วกันนะ
เออ ที่นี่แหละ อร่อยเด็ดดวงมาก เราไปกินปาท่องโก๋มาใช้ได้เลยผัดไทยไฟทะลุก็อร่อยสุดยอดมาก เข้มข้นเครื่องเยอะ ที่ไทยเทสฮับต้องไปลองจริงๆ อยากให้ไปลองกันของอร่อยเยอะ
แจ้งเตือน
ภาพและเนื้อหาต่อไปนี้ ไม่เหมาะสมแก่เด็ก และเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี